[suanboard monotone logo : 2777 bytes]
[header decor line : 64 bytes]
HOME RULE FAVOURITE MEMBER ZONE REACTIVATE FORGET PASSWORD    

SEARCH [icon freecompose : 217 bytes]
[icon register : 195 bytes] สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก : โพสต์รูป, รูปแบบตัวอักษร, ไอคอน, bookmark, ค้นหาข้อความ ฯลฯ [icon login : 178 bytes]

[icon-delete : 101 bytes]
" ปลาปักเป้า เผลอกินถึงตาย! "
จากกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการรายงานถึงการเปิบส้มตำปลาร้าของกลุ่มแม่บ้านจ.ระยอง ความไม่ธรรมดาของกรณีดังกล่าวอยู่ที่ ปลาร้า ซึ่งทำมาจากปลาปักเป้า เมื่อได้รับประทานจึงทำให้เกิดความผิดปกทางร่างกาย อันเนื่องมาจากพิษของปลาปักเป้า

ที่ผ่านมาในบ้านเราเคยเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานปลาปักเป้าด้วยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ ต่างก็มีความเสี่ยงพอกัน หากผู้ประกอบอาหารไม่มีความรู้ ความชำนาญที่เพียงพอ หรือพ่อค้า แม่ค้าจงใจซื้อมาทำขาย เพราะประหยัดต้นทุน เมื่อเปรียบเทียบกับญี่ปุ่น ที่นิยมรับประทานเนื้อปลาปักเป้า เพราะมีรสชาติดี หวาน กรุบ แต่ผู้ประกอบอาหารจะต้องมีใบรับรองที่ถูกต้องว่ามีความรู้ความสามารถในการประกอบอาหารชนิดนี้ได้อย่างปลอดภัย

และจากกระแสข่าวยังส่งผลไปถึงผู้บริโภคที่นิยมรับประทานเนื้อปลา เนื่องจากต้องการรักษาสุขภาพ เพราะเนื้อปลานั้นย่อยง่าย มีไขมันต่ำ จนเกิดความลำบากใจ ต้องชั่งใจหากจะต้องซื้อหาอาหารที่มีลูกชิ้นปลา เนื้อปลาแล่ หรือสารพัดอาหารแปรรูปจากปลา ให้ต้องหวาดผวา กลัวจะได้รับประทานเนื้อปลาไม่พึงประสงค์!

ปลาปักเป้า หรือ Puffer Fish เป็นปลาที่มีอยู่ทั้งในน้ำจืด น้ำเค็ม ในประเทศไทยก็หาได้ไม่ยาก ถูกแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ คือ

1.Tetraodontidae มีฟัน 4 สี่ ผิวเกลี้ยง และ

2.Diodontidae มีฟันเพียง 2 ซี่ คล้ายจะงอยปากนกแก้ว มีหนามรอบตัว พบมากกว่าสายพันธุ์แรก แต่ถึงอย่างไรปลาปักเป้าทั้งหมดล้วนมีพิษสงค์ ที่ทำคุณถึงตาย ขอย้ำ…ถึงตาย!

พิษของมันมีชื่อเรียกว่า Tetrodotoxin มักจะอยู่ที่ส่วนหนัง ไข่ ลำไส้ และตับ ซึ่งความร้อนในการประกอบอาหารเพียงแค่ 170 องศาเซลเซียส นาน 10 นาที ก็ไม่สามารถทำลายพิษลงได้

สาเหตุของความกลัวพิษร้ายจากปลาปักเป้า ก็เพราะยังไม่มียารักษาโดยตรง ทั้งนี้อาการจะเกิดขึ้นหลังรับประทาน 10-45 นาที หรือช้า-เร็วก็ยังขึ้นอยู่กับปริมาณ และความต้านทานของร่างกายโดยจะแบ่งอาการเป็น 4 ระยะ คือ

-ระยะแรก : มีอาการชาที่ริมฝีปาก ลิ้น ใบหน้า ปลายนิ้วมือ คลื่นไส้ อาเจียน

-ระยะที่สอง : ชามากขึ้น อ่อนเพลีย แขนขาไม่มีแรงจนอาจจะเดินหรือยืนไม่ได้

-ระยะที่สาม : กล้ามเนื้อกระตุกคล้ายอาการชัก พูดตะกุกตะกักจนอาจพูดไม่ได้ เพราะกล่องเสียงเป็นอัมพาต แต่ยังรู้สึกตัว

-ระยะที่สี่ : กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต หายใจไม่ออก หมดสติ รูม่านตาขยายโตเต็มที่ ไม่มีปฏิกิริยาไวต่อแสง หากยังไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องหัวใจจะหยุดเต้น และเสียชีวิตภายในเวลาอันรวดเร็ว

บางรายอาจโชคดี รับสารพิษเข้าไปไม่มากก็จะมีอาการเพียงระยะแรก และระยะที่สอง การขับพิษออกจากร่างกายนั้นจะออกทางไต หรือการปัสสาวะ

แม้ว่าในช่วงนี้ มือปราบปลาปักเป้า จะประกาศขอลุยปราบปลาปักเป้าเพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้บริโภค ทั้งตรวจตราแหล่งซื้อ-ขาย ผลิต-แปรรูป แต่เพื่อความไม่ประมาท ปลอดภัยไว้ก่อน คุณผู้อ่านควรใส่ใจในแหล่งที่มา มาตรฐานของวัตถุดิบที่จะนำมาประกอบอาหาร เลี่ยงการรับประทานอาหารจากแหล่งที่ไม่คุ้นเคย

วิธีการสังเกตเนื้อปลาปักเป้า

มีลักษณะคล้ายเนื้อไก่ สีขาวอมชมพู มัดกล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจนกว่าเนื้อปลาทั่วๆ ไป

จากภาพ เนื้อปลาแล่ทั้ง 2 ชิ้น ต่างก็เป็นเนื้อปลาปักเป้า

ชิ้นปลาด้านบน คือ เนื้อปลาที่แล่ด้านข้างลำตัว จะมีพังผืดติดอยู่คล้ายไก่

ชิ้นปลาด้านล่าง คือ เนื้อปลาที่แล่ด้านใน ที่สามารถมองเห็นมัดกล้ามเนื้อขนาดใหญ่

http://dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=51757&NewsType=2&Template=1

22 ม.ค. 51 / 08:02
0 0
ชมสวน [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ] : [ protect msn from spamware ]
view 442 : discuss 16 : rating - : bookmarked 0 : vote 1 58.181.148.228

#3# - 383661 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] อึ้ง! "แซลมอน" เก๊–ปักเป้าย้อมสี คร่าชีวิตนักเปิบ 15 ราย ภายใน 3 ปี
เผยมีขายเกลื่อนเมืองตั้งแต่ร้านหมูกระทะ ยันห้างสรรพสินค้าระดับบิ๊ก


ปลาปักเป้าเป็นปลาต้องห้ามตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 264 (ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2545) ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย

การแสวงหาผลกำไรที่มุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตของผู้บริโภคยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าบางรายที่นำปลาปักเป้ามีพิษออกมาแล่ขาย โดยหลอก ลวงประชาชนให้เข้าใจผิดว่าเป็นเนื้อปลาชนิดอื่น

ทั้งนี้ จากการกระทำที่ขาดความยั้งคิดในเรื่องดังกล่าว ล่าสุดมีผลวิจัยออกมาระบุว่า ตั้งแต่ปี 2547-2550 มีผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากการบริโภคปลาปักเป้าที่มีพิษแล้วถึง 15 ราย

คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงพิษภัยของปลาปักเป้า โดยระบุว่า ขณะนี้มีพ่อค้าหัวใสนำปลาปักเป้ามาแล่ขายโดยหลอกลวงเป็นปลาชนิดอื่น แถมบางร้านย้อมสีจนคล้ายปลาแซลมอน และพบมากตามร้านหมูกระทะทั่วไป ซึ่งปัจจุบันเนื้อปลาปักเป้าได้กลายเป็นส่วนผสมของอาหารหลายชนิด แม้กระทั่งเนื้อปลาในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อาจมีปักเป้ารวมอยู่ด้วย ผู้บริโภคจึงควรใช้วิจารณญาณในการเลือกซื้อ

รศ.นพ.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า
ตั้งแต่ปี 2547-2550 มีผู้ป่วยโรคพิษปลาปักเป้าทะเล 95 ราย ปลาปักเป้าน้ำจืด 13 ราย ไม่ทราบอีก 7 ราย รวมทั้งสิ้น 115 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 15 คน
จังหวัดที่มีผู้ได้รับโรคพิษจากปลาปักเป้ามากที่สุด คือ ชลบุรี 46 ราย เสียชีวิต 4 คน
รองลงมาได้แก่ กรุงเทพมหานคร 35 ราย สตูล 10 ราย ขอนแก่น 9 ราย สมุทรปราการ 7 ราย สมุทรสงคราม 4 ราย ชัยภูมิ 2 ราย เชียงใหม่ 2 ราย และไม่ทราบจังหวัดอีก 7 ราย

ส่วนอาหารที่นิยมนำปลาปักเป้ามาประกอบ ได้แก่ ลูกชิ้นปลา ทอดมันปลา ห่อหมก ไข่ปลาทอด/ต้ม ปลาทอด/ปิ้ง/ย่าง ต้มยำปลา ต้มยำไข่ปลา ก๋วยเตี๋ยวปลา ปลาผัดขึ้นฉ่าย เป็นต้น

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีร้านค้าบางแห่งนำเนื้อปักเป้าไปย้อมให้มีลักษณะคล้ายปลาแซลมอน โดยจะใช้สีผสมอาหาร ทำให้สีของเนื้อปลาเป็นสีทองคล้ายเนื้อปลาแซลมอน ไม่มีลักษณะของสีขาวอมชมพูซึ่งเป็นลักษณะของปลาปักเป้าแท้ๆ อีกทั้งเมื่อดูผิวเผินแล้วจะเห็นได้ว่า ลักษณะไม่แตกต่างกันเลย ซึ่งจะพบมากในร้านอาหารหมูกระทะและจิ้มจุ่ม

ดังนั้น จึงฝากเตือนประชาชนทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชอบกินอาหารตามร้านหมูกระทะ ต้องดูให้แน่ชัดว่าเป็นปลาชนิดใดก่อนบริโภค

รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย กล่าวว่า หากประชาชนไปซื้อปลาตามท้องตลาด หรือที่ไหนก็ตาม หากไม่เห็นลักษณะของตัวปลา หรือเป็นเนื้อปลาที่ไม่มีหนัง เพื่อความปลอดภัย ก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นปลาปักเป้า

แหล่งที่อาจเจอปลาปักเป้าคือ ร้านข้าวต้มปลา จิ้มจุ่ม หมูกระทะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อปลาที่แอบอ้างว่าเป็นปลาแซลมอนที่ได้จากการนำเนื้อปลาปักเป้าไปย้อมสี

ข้อสังเกต เนื้อปลาปักเป้าเมื่อแล่แล้วจะมีลักษณะเป็นชิ้นหนา สีขาวอมชมพู มัดกล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน ด้านข้างลำตัวเมื่อลอกหนังออกจะมีพังผืดติดอยู่

www.thaihealth.or.th/cms/detail.php?id=8164

22 ม.ค. 51 / 10:47
0 0
ชมสวน [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ] : [ protect msn from spamware ]
followup id 383661 58.181.148.228

#4# - 383662 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ปาปักเป้า !!

22 ม.ค. 51 / 10:48
0 0
> MoonSalt < [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 383662 58.9.152.245

#5# - 383663 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ปัจจุบันยังไม่ปรากฏยาชนิดใดที่สามารถแก้พิษปลาปักเป้าได้ จึงต้องใช้วิธีการรักษาตามอาการของผู้ป่วย ซึ่งทางการแพทย์จะให้การดูแลรักษาผู้ป่วยแบบประคับประคองด้วยการให้น้ำเกลือเพื่อขับพิษออกทางปัสสาวะให้เร็วขึ้น และให้สเตียรอยด์ลดอาการบวมของสมอง
ผู้ป่วยจึงมีอาการดีขึ้นเป็นปกติ

ส่วนการป้องกันนั้นมี 2 วิธี คือ


1.ไม่รับประทานปลาปักเป้าทุกชนิด ทั้งนี้ ในกรณีปลาที่จะซื้อกินมีลักษณะที่น่าสงสัยว่าเป็นปลาปักเป้า คือ เนื้อขาวคล้ายเนื้อไก่ ไม่มีหนัง ราคาถูกประมาณ 30-70 บาทต่อกิโลกรัม หรือปลาที่ใช้ชื่อว่า ปลาเนื้อไก่ ปลาช่อนทะเล ก็ไม่ควรซื้อมารับประทาน เพราะพิษจากปลาปักเป้าไม่สามารถทำลายได้ด้วยความร้อน ดังนั้น แม้ผ่านการต้ม ทอด ย่างก็ไม่สามารถรับประทานได้

2. ถ้ามีอาการที่สงสัยว่าได้รับพิษจากปลาปักเป้า ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อบำบัดรักษาทันที


http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=11692
www.thaihealth.or.th/cms/detail.php?id=8164

ปลาปักเป้า ถ้าจับได้ก็ปล่อยมันไป หรือเอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ครับ

22 ม.ค. 51 / 10:55
0 0
ชมสวน [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ] : [ protect msn from spamware ]
followup id 383663 58.181.148.228

#6# - 383666 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] คห. 4
ตลกดี
22 ม.ค. 51 / 11:16
0 0
ผ่านมา [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 383666 203.156.169.51

#7# - 383670 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] เมืองไทยมีกฎหมายห้าม นำเข้า/ขาย ปลาปักเป้านี่ครับ แต่น้อยคนนักที่จะรู้

ร้านไหนขาย แจ้งจับได้เลยครับ
22 ม.ค. 51 / 11:32
0 0
will@OSK [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ] : [ protect msn from spamware ]
followup id 383670 203.152.57.5

#8# - 383675 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] เคยออกทีวี อยู่พักนึง อ่ะคับ
ไม่นานนี้ เหมือนเดือนที่แล้ว
22 ม.ค. 51 / 12:00
0 0
ผ่านมา [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 383675 203.156.169.51

#9# - 383678 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] จากไทยรัฐ ครับ
http://203.151.217.76/online.php?section=newsthairathonline&content=72169

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ธ.ค.) เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) นำกำลังเข้าปิดล้อมตลาดปลาแม่กลอง อ.แม่กลอง จ.สมุทรสงคราม สามารถยึดปลาปักเป้าได้จำนวน 5,000 กิโลกรัม โดยไม่มีผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของ ซึ่ง พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ระบุว่าเจ้าหน้าที่จะสืบสวนสอบสวนหาตัวมาดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้ปลาปักเป้าทุกชนิด และอาหารที่มีเนื้อปลาปักเป้าเป็นส่วนผสม เป็นอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ฝ่าฝืนระวางโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 2 ปี ปรับ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท

พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ย้ำว่าปลาปักเป้า 1 ตัว มีพิษรุนแรงกว่าไซยาไนส์ 1,200 เท่า และพิษในปลา 1 ตัว สามารถฆ่าคนได้ถึง 30 คน พิษที่พบส่วนใหญ่อยู่ที่เครื่องในและหนังของปลา และอุณหภมิ 200 องศาเซลเซียส ก็ไม่สามารถทำลายพิษดังกล่าวได้

------------------------------------------------------------------------

จำนวน 5,000 กิโลกรัม นี่ 5 ตันเลยนะครับ

พิษในปลา 1 ตัว สามารถฆ่าคนได้ถึง 30 คน

เห็นที่ต้องระวังตัวเต็มที่ซะแล้ว ยังไม่มีเมียซะด้วย
22 ม.ค. 51 / 12:05
0 0
ชมสวน [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ] : [ protect msn from spamware ]
followup id 383678 58.181.148.228

#10# - 383685 [icon-addtodelete : 101 bytes]
การทำงานของTetrodotoxinคือ จะไปปิดกั้น Pore ของNa-Voltage gate ทำให้การส่งสัญญาณประสาทถูกปิดกั้น ซึ่งทำให้ร่างกายเป็นอัมพาตได้

สิ่งมีชีวิตที่มีTetrodotoxin ก็มีPufferfish (ปลาปักเป้า) Parrotfish (ปลานกแก้ว), คางคกกลุ่มจีนัสAfelopus, Blue-ringed octopus, ปลาดาวบางชนิด, Polyclad Flatworm, Arrow Worm, Ribbon worm
22 ม.ค. 51 / 12:47
0 0
Unstopable
followup id 383685 203.131.209.66 <= 192.168.200.194

#11# - 383703 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ผมเคยกินครับ ตอนนั้นประมาณ6ปีที่แล้ว ร้านอาหารแถวบ้านเรียกว่า "ปลาอกไก่"
มารู้ทีหลังว่าเป็นปลาปักเป้า เลิกกินเลยคร้าบบบ -.-"



คนที่แร่มาส่งที่ร้านคงทำเป็น ไม่มีพิษ เลยรอดมาจนบัดนี้ >.<"
22 ม.ค. 51 / 14:34
0 0
T.suan123 [icon smile : 92 bytes] : n/a : n/a : n/a
followup id 383703 58.64.104.138

#12# - 383712 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ปักเป้าในญี่ปุ่น

ปลาปักเป้าหรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่าปลา "ฟูกุ" (fugu) นั้นเป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่น ซึ่งตรงกันข้ามกับประเทศไทย แต่ละปีชาวญี่ปุ่นบริโภคปลาชนิดนี้ถึง 20,000 ตันเลยทีเดียว

การปรุงอาหารที่ทำจากปลาฟูกุเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังมาก แต่ละปีกระทรวงสาธารณสุขจะเปิดสอบใบประกาศรับรองความสามารถในการเป็นพ่อครัวฟูกุ ซึ่งต้อง ทดสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติคือต้องปรุงเองและชิมเองด้วย ถ้าปรุงถูกวิธีและรอดชีวิตจากการทดสอบจึงจะได้ใบประกาศ

ซึ่งแต่ละปีมีผู้สอบผ่านเพียงร้อยละ 25 เท่านั้น ภัตราคารที่เน้นเฉพาะเมนูฟูกุ เรียกว่า ฟูกุเรียวไต (fugu ryotei ; restaurant specializing in fugu) สังเกตได้ง่ายโดยร้านเหล่านี้มักมีรูปหรือหุ่นจำลองปักเป้าตัวใหญ่ๆ แขวนอยู่หน้าร้าน ปักเป้าพันธุ์ที่นิยมนำมาปรุงอาหาร คือโทราฟูกุ หรือปักเป้าเสือ (Torafugu ; Tiger puffer ; Takifugu rubripes) เพราะตัวใหญ่เนื้อกรุบเหนียว(shiko shiko) รสชาติดี

เมนูที่นิยมกันมี 3 ชุด คือ

1. ชุดฟูกุซาชิ หรือ ซาซิมิฟูกุ เป็นปลาดิบที่แล่บางพิเศษจัดเรียงบนจานเป็นรูปแบบต่าง ๆ แต่ส่วนใหญ่มักเรียงเป็นวงกลมรอบจาน จิ้มกับซอสเปรี้ยว ปองสึ (ponzu) กินแกล้มกับหอมและหัวผักกาดดอง ชุดนี้ราคาประมาณ 3,000 – 6,000 เยน (อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 35 บาทต่อ 100 เยน)

2. ชุดฟูกุจิริ (fugu-chiri) เมนูนี้คล้ายกับจิ้มจุ่มบ้านเรา แต่ใช้เนื้อปักเป้าลวกในหม้อที่ใส่เห็ด เต้าหู้ญี่ปุ่น (tofu) แครอท กะหล่ำจีน โรยหน้าด้วยใบเบญจมาสญี่ปุ่น กินกับ ฟูกุโซซุอิ (fugu zosui) เป็นข้าวไข่ตุ๋นปรุงด้วยปองสึและน้ำฟูกุจิริเคี่ยว และมิซูตากิ (mizutaki) หรือเนื้อฟูกุต้ม ชุดนี้สามรายการราคาประมาณ 10,000 เยน

3. ชุดฟูกุ โน อะรายากิ (fugu no arayaki) หรือหัวปลาย่าง ซึ่งอร่อยตรงแก้มปลาที่ให้รสชาติหวานมัน กินกับข้าวญี่ปุ่น และน้ำจิ้มหวาน ชุดนี้ราคาประมาณ 3,800 เยน

ส่วนที่ทำเป็นเครื่องดื่มคือ ฮิเรสาเก (hirezake) เป็นครีบฟูกุซอยและปิ้งจนหอมแล้วอุ่นในสาเกร้อนๆ นอกจากนี้บางร้านยังจำหน่าย ชิราโกะ (shirako) หรือน้ำเชื้อฟูกุ ซึ่งจะใส่ในช้อนเล็ก ๆ กินกับสาเกร้อน ๆ ใช้เป็นยาบำรุงทางเพศ

ด้วยความที่ฟูกุเป็นที่นิยมบริโภคในญี่ปุ่น ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่แต่ละปี ชาวญี่ปุ่นได้รับพิษจากการรับประทานปลาปักเป้าเป็นร้อยรายต่อปี และร้อยละ 50 เสียชีวิตแม้นำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาทันที

http://www.ifm.go.th/articles/article002_001p2.php

22 ม.ค. 51 / 15:32
0 0
ชมสวน [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ] : [ protect msn from spamware ]
followup id 383712 58.181.148.228

#13# - 383798 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ซึ่งแต่ละปีมีผู้สอบผ่านเพียงร้อยละ 25 เท่านั้น <--- แล้วอีก75 ล่ะ O_o"
22 ม.ค. 51 / 20:18
0 0
T.suan123 [icon smile : 92 bytes] : n/a : n/a : n/a
followup id 383798 58.64.104.138

#14# - 383802 [icon-addtodelete : 101 bytes]
คงตายหมดแล้วครับ
22 ม.ค. 51 / 20:33
0 0
GDI KSN DLF
followup id 383802 58.9.112.72

#15# - 383847 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] เอา structure ของ tetrodotoxin มาให้ดูถึงความสวยงามของโครงสร้างกันเล่นๆ ครับ ซึ่งจริงๆ เค้าก็ทำ total synthesis กันได้มานานแล้วด้วย route ที่โคตรยาวเลย

22 ม.ค. 51 / 22:08
0 0
Mr.T [icon smile : 92 bytes] : n/a : n/a : n/a
followup id 383847 58.9.207.34

#16# - 383862 [icon-addtodelete : 101 bytes]
ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ โอกาส 1ใน 10ล้านได้มั้ง
22 ม.ค. 51 / 22:24
0 0
falcao
followup id 383862 125.24.48.97

#17# - 384028 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon]
เคยได้ยินมาว่า มี ร.ร. เปิดสอน
การจัดการกับเนื้อของปลาปักเป้า
อย่างถูกวิธีในญี่ปุ่นอ่าคะ มะรู้จิงอะป่าง
23 ม.ค. 51 / 18:55
0 0
Haibara_Ai [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ] : [ protect msn from spamware ]
followup id 384028 58.9.60.137

#18# - 384359 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ปลาปักเป้า ญี่ปุ่นเรียกว่า Fugu เป็นอาหารเบิปพิสดารชนิดหนึ่งในญี่ปุ่น แม้จะทราบดีกันอยู่แล้วว่าปลาพวกนี้มีพิษร้ายแรง แม้กระทั่งส่วนที่มีพิษสะสมอยู่มากที่สุดส่วนหนึ่งคือลูกอัณฑะก็ยังสามารถนำไปรับประทานโดยมีความเชื่อว่าเป็น ยาโป้ว

ว่ากันว่า ถ้าผู้ป่วยทนได้ถึง 24 ชม. มีโอกาสรอด (เน้น..ถ้าทนได้)

พ่อครัวจะต้องมีฝีมือแล่ปลาได้อย่างรวดเร็วก่อนที่ toxin จะแพร่ไปโดนเนื้อปลา แต่อย่างไรก็ตามยังมีพิษส่วนหนึ่งที่ติดอยู่กับเนื้อปลาที่จะทำให้ลิ้นและริมฝีปากชาได้ ว่ากันว่านี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้ปลาปักเป้าเป็นอาหารเลิศรส แม้จะต้องเสี่ยงด้วยชีวิตก็ตาม (มันจะไปรู้รสได้ยังไงถ้าปากชาไปแล้ว?? .... ฮา)

ผมเคยอ่านมา ที่ญี่ปุ่นเขาว่าถ้าเอามากักไว้โดยให้อาหารปกติ (คืออาหารที่ไม่มีพิษแน่ๆ) ปลาปักเป้า หรือ ฟุกุ นี่จะกลายเป็นปลาที่ไม่มีพิษ รับประทานได้โดยไม่ต้องกังวล แต่พวกคนญี่ปุ่นก็ยังชอบความท้าทาย แล้วก็ปฏิเสธปักเป้าที่มาจากวิธีดังกล่าว

จริงๆแล้วร้านส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นก็เอาปักเป้าไม่มีพิษ มาบอกว่ามีพิษแล้วทำด้วยกรรมวิธีเดียวกัน ก็ไม่น่าจะมีใครรู้ความแตกต่างนะ แถมร้านยังได้ชื่ออีกว่า ไม่เคยมีใครเป็นอะไรจากการกินเนื้อปลาปักเป้าที่ร้านตน

แต่....(อีกแล้ว) ว่ากันว่าที่คนญี่ปุ่นนิยมกินปลาปักเป้าก็มาจากความเป็นพิษของมันนั่นแหละ กินเข้าไปแล้วปากต้องชากำลังดีถึงจะอร่อย

มีคุณน้าคนไทยที่รู้จักท่านนึง ไปลองเจ้าปักเป้ามาจากญี่ปุ่น ท่านบอกว่าตอนแรกไม่รู้ พอรู้ว่าเป็นปักเป้า จะด่าก็ด่าไม่ออกมัวแต่นั่งน้ำลายยืดอยู่ (อันนี้คัดลอกคำท่านมาเลยนะเยี่ย) พอมาเก็บตังค์ ทีนี้ชาไปทั้งปาก ทั้งตัวเลยทีเดียว เถียงไม่ออก

(ฮา อร่อยแบบซาดิสต์)

24 ม.ค. 51 / 11:30
0 0
ชมสวน [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ] : [ protect msn from spamware ]
followup id 384359 58.181.148.228