HOME
RULE
FAVOURITE
MEMBER ZONE
REACTIVATE
FORGET PASSWORD
SEARCH
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก
: โพสต์รูป, รูปแบบตัวอักษร, ไอคอน, bookmark, ค้นหาข้อความ ฯลฯ
" " ---ตะลอนไทยไปกับหนมเส้น---> ฉบับ ๑๗ : ข้ามภูพาน" "
-->> พูดถึง "ฝน"
บางคนคิดถึงความชื้นแฉะ การค้าขายที่ซบเซา บางคนกลัวน้ำท่วม บ้างก็กลัวโรคภัยไข้เจ็บ บางคนอาจมองเห็นสงครามในดงเมฆทะมึน ส่งเสียงฟ้าคำราม สาดแสงฟ้าแลบแปลบ และสาดกระสุนลงมาเป็นหยาดหยด บางคราวฝนก็ปกคลุมหัวใจที่ว้าเหว่ มันเหงาเสียจนไม่ได้ยินเสียงใคร นอกจากฝนพรำ
-->>แต่บางคนว่า
ฝน
คือชีวิต คือปากท้อง คือแรงบันดาลใจ อาจจะเป็นความร่าเริง อาจจะเป็นชื่อเพื่อนสนิทคนสวย หรือเป็นการเริ่มต้นใหม่เมื่อฟ้าหลังฝนมาเยือน
-->>ไม่ว่า
ฝน
จะเป็นอย่างไร เมื่อสายฝนหยาดชะโลมทั่วผืนแผ่นดินนี้ ไอร้อนพลันจางหาย จิตใจคนสงบลง ชีวิตชีวาและความร่มเย็นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ที่นี่...
สวัสดีหน้าฝน
---เย็นสบายชายโขง--> ตอนที่ ๑ : ข้ามภูพาน
--> เมืองชายโขงทั้งนครพนม มุกดาหาร ลึกเข้ามาที่สกลนคร ต่างก็ผ่านประวัติศาสตร์และความผกผันมายาวนานนับพันปี กระทั่งเดี๋ยวนี้อะไรใหม่ ๆ ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
--> ช่วงปีใหม่ แดดอีสานจ้าอย่างคงเส้นคงวา มาเที่ยวหนนี้ผมนั่งรถผ่านไปมาหลายที่ แม้จะเที่ยวได้ไม่ทั่วแต่ผมก็ได้กำไรชีวิตอย่างหนึ่ง คือโชคดีที่มีโอกาสไปเห็นสิ่งที่เรียกว่า
"ความเป็นไป"
มากกว่าใครหลายคน (ภาพจาก Google Earth)
18 พ.ค. 49 / 03:07
0
0
หนมเส้น_retrospective tourist post
:
:
view 202 : discuss 18 : rating - : bookmarked 0 : vote 0
161.200.255.164<=161.200.129.98
#1#
- 177937
(๑๐) อรุณสวัสดิ์หลังภูพาน
--ถ้าใครได้กางแผนที่ดู จะเห็นเทือกหินทรายอย่างภูพานเหยียดยาวตั้งแต่อุดรธานี กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม ยันมุกดาหาร ผมได้ไปสัมผัสกับจุดเล็ก ๆ อย่าง
อุทยานแห่งชาติภูพาน
เมืองสกลนคร ที่นี่มีอะไรน่าสนใจหลายอย่าง
--ในแง่ประวัติศาสตร์ คงต้องย้อนไปสมัยสงครามโลกที่
ถ้ำเสรีไทย
คลังอาวุธของเสรีไทยสายสกลนครโดยนายเตียง ศิริขันธ์ ย่านภูพานนี้ยังคงมีกิจกรรมการเมืองมาตลอดกระทั่งยุคสงครามเย็น หรืออาจจะย้อนไปไกลกว่านั้นที่
พระธาตุภูเพ็ก
ปราสาทหินทรายศิลปะขอมสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ อายุร่วมพันปี มีแท่งหินที่เป็นสุริยปฏิทิน ด้วยศาสตร์โบราณที่ใช้ทิศทางของแสงอาทิตย์บอกวันคืนและฤดูกาล จึงจัดเป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ ๒ : สัมผัสจริงเมืองไทย
--คืนเคาท์ดาวน์ ผมรอนแรมมาจากกรุงเทพฯ และหยุดการเดินทาง ณ ที่ทำการอุทยานฯ ที่นี่เพิ่งมีเวทีฉลองปีใหม่เป็นครั้งแรก พี่ ๆ เจ้าหน้าที่ระดมกันมาทำงาน ตั้งซุ้มอาหาร รับแขกที่มาพักแรม ผมก็ยังได้มานั่งเสื่อกินปลาเผา ฟังเพลงลูกทุ่งแบบชาวบ้าน เป็นการฉลองปีใหม่ที่ไม่เลวเลย
--แต่คืนนี้ ใครจะรู้ว่ามีที่กางเต็นท์สวย ๆ อยู่ริมสระน้ำ...
--> เช้าตื่นขึ้นมา ก็มีดอกบัวง้ามงามของพี่แหยมกับน้องเจ้ยบานสะพรั่ง...เอ้า อยากได้ก็ลงไปเด็ดเอา !
18 พ.ค. 49 / 03:15
0
0
หนมเส้น_retrospective tourist post
:
:
followup id 177937
161.200.255.164 <= 161.200.129.98
#2#
- 177938
(๙) เช้าตรู่หลังภูพาน นอกจากสระบัวน้อย ๆ อุทยานฯ แห่งนี้ยังมีธรรมชาติให้ชมอีกเยอะ
--
น้ำตกคำหอม
และ
โค้งปิ้งงู
ดูจะขึ้นชื่อที่สุดเพราะเป็นจุดแวะชมวิวริมทางก่อนจะลงที่ราบเมืองสกลนคร มีหลักกิโลเมตรอันยักษ์ปักหลั่นอยู่ริมโค้งที่ขดเหมือนงู จะว่าไปคนเราก็ชอบกันนักเรื่องใหญ่โตที่สุดในปฐพี รบกวนกินเนสส์บุ๊คอยู่เรื่อยเลย
--ถ้าใกล้ที่ทำการฯ มาหน่อยก็ยังมี
ผานางเมิน
ที่พักแรมและชมอาทิตย์อัสดง,
ลานสาวเอ้
ลานหินกับทุ่งดอกไม้ในป่าเต็งรัง และ
สะพานหินธรรมชาติ
ความมหัศจรรย์ของโลกในตำราภูมิศาสตร์
--> แต่กว่าจะมาถึงภูพานได้ ก็เถลไถลไปตั้งหนึ่งวันเต็ม ๆ
18 พ.ค. 49 / 03:23
0
0
หนมเส้น_retrospective tourist post
:
:
followup id 177938
161.200.255.164 <= 161.200.129.98
#3#
- 177940
(๘) ผมลองเปิดแผนที่ดู กรุงเทพฯ-สกลนคร ก็แค่หกร้อยกว่ากิโล (ราว กท.-ลำปาง) เท่านั้นเอง
--แต่วันสิ้นปี ๒๕๔๘ ล้อรถกลับต้องหมุนไปไกลกว่านั้น หลังจากที่มัวไปแวะเติมน้ำมัน (มัน...คือส้มตำไก่ย่าง) วิเชียรบุรี แทนที่จะมาสระบุรีเลี้ยวขวามิตรภาพเข้าโคราช เส้นหลักที่ขึ้นชื่อเรื่องรถติดนรกทุกเทศกาล กลับต้องมาทางชัยภูมิ บ้านไผ่
--ผมเลยพยายามหาข้อดีที่ได้นั่งรถอ้อม บนเส้นทางสายผ้าไหมและดอกกระเจียวบานที่อุทยานฯ เทพสถิตและไทรทอง จ.ชัยภูมิ ที่นี่รังสีความเจริญจากกรุงเทพฯ ไม่ได้เจิดจ้านัก ผมจึงได้มาเห็น "ความเป็นไป" ที่ผู้คนพออยู่พอกิน ไม่ฟู่ฟ่านัก
--> ในบ้านเล็ก ๆ กลางทุ่ง ในที่ที่ไม่แล้งน้ำ คนไม่ยากจน ไม่อยากจน และไม่ได้รวยหนี้ มันก็ดูดีไปอีกแบบ
(๗) จนแล้วจนรอด ก็ยังมาไม่ถึงภูพานสักที
--จากบ้านไผ่สู่สายมิตรภาพ ชมบ้านชมเมืองไปก็ชักจะเพลิน เศรษฐกิจทางขอนแก่นดูเจริญกว่าที่คิดไว้มาก ยิ่งในเมืองยิ่งตื่นตาตื่นใจ ว่า
ขอนแก่น
จะใหญ่โตได้ขนาดนี้
--หากย้อนไปถึงชุมชนเล็ก ๆ ริมทางรถไฟ ที่กลายมาเป็นเมืองใหญ่ของอีสานได้ ส่วนหนึ่งก็ด้วยดำริของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ความเจริญทางเศรษฐกิจ สถานศึกษา หน่วยงานรัฐ และผังเมืองแบบตารางจึงประกอบรวมกันขึ้นมาเป็นขอนแก่นอย่างทุกวันนี้
--> ใครเกิดไปสอบได้ที่มอดินแดงก็รู้ไว้ซะ ว่าบ้านเมืองเขาเจริญมากมาย อยู่สบายไม่แพ้มออื่น ๆ เด้อ (ขอบคุณภาพจาก
KhonKaenView.Com
)
18 พ.ค. 49 / 03:32
0
0
หนมเส้น_retrospective tourist post
:
:
followup id 177940
161.200.255.164 <= 161.200.129.98
#4#
- 177942
(๖) และก็ยังไม่ถึงภูพานสักที
--บ่ายแก่ ๆ แล้วเส้นทางขอนแก่นมากาฬสินธุ์ตรงเหยียดยาวซะจนน่าง่วง มาค่ำมืดพ้น อ.สมเด็จ มาได้ ทางก็คดเคี้ยวน่าเวียนหัวขึ้นสู่ภูพาน ถ้ามาตอนกลางวันคงจะได้แวะชม
ผาเสด็จ
หน้าผาริมทางที่ในหลวงเคยเสด็จและประทับเสวยพระกระยาหารกลางวัน
--เหลือบเห็นป้ายจึงได้รู้ว่าบนเทือกภูพานนี้มีอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง เช่น
อช.ภูพาน
ทางตะวันตกต่ออุดรธานีก็มี
อช. ภูผาเหล็ก
ส่วนทางตะวันออกต่อมุกดาหารที่เคยรบกันหนักสมัยสงครามเย็นก็มี
อช.ภูผายล
--แม้ตัวที่ทำการ อช. ภูพาน จะห่างจากเมืองสกลแค่สิบกว่ากิโลดังทางผ่านของผู้สัญจร แต่คืนเคาท์ดาวน์ ผมก็ขอนอนรับลมหนาวที่นี่ครับ
--> อุตส่าห์เล่าถึงอุทยานฯ เขาซะดิบดี แต่ดันไม่มีเวลาเข้าไปเที่ยว ป้าดโธ่ ถ่ายป้ายเป็นที่ระลึกหน่อยเป็นไร
18 พ.ค. 49 / 03:38
0
0
หนมเส้น_retrospective tourist post
:
:
followup id 177942
161.200.255.164 <= 161.200.129.98
#5#
- 177943
(๕) แค่อึดใจพระพุทธก็ถึงแล้วครับ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ บนสวิตเซอร์แลนด์อีสาน
--ที่นี่สมเด็จพระบรมราชินีนาถเสด็จแปรพระราชฐานทุกปีครับ และที่นี่ก็เป็นเหมือนหัวใจของช่างทอผ้าไหมไทย นอกจากงานประกวดผ้าไหม หรือแฟชั่นโชว์สำหรับแขกบ้านแขกเมือง ถ้าใครเคยชมละครบางเรื่องก็จะเข้าใจได้ว่าเกียรติสูงสุดในชีวิตช่างทอผ้านั้น คือได้มาเข้าเฝ้าและถวายผ้าไหมแด่สมเด็จฯ ที่
พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์
--แต่วันนั้นน่าเสียดาย ท่านเพิ่งเสด็จกลับจึงไม่ได้เปิดให้ชมภายในที่ร่ำลือกันเหลือเกินว่าสวยมาก ได้แต่ชมพระบารมีอยู่หน้าประตู
--นอกจากงานศิลปาชีพแล้ว พื้นที่ใกล้พระตำหนักยังมีโครงการในพระราชดำริอีกมากมายเพื่อความผาสุกของราษฎร โดยเฉพาะด้านเกษตรกรรม อย่างเช่น
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ที่พยายามศึกษาวิธีการทำเกษตรที่เหมาะสมกับภูมิประเทศของภาคอีสาน หรืองานชลประทานที่แก้ปัญหาน้ำในดินแดนที่ขึ้นชื่อว่าแล้งที่สุด
18 พ.ค. 49 / 03:49
0
0
หนมเส้น_retrospective tourist post
:
:
followup id 177943
161.200.255.164 <= 161.200.129.98
#6#
- 177947
(๔) แล้วเราก็จะลงสู่สกลนคร เมืองสบาย ๆ ชายหนองหาน
--จังหวัดนี้จะขึ้นชื่อเรื่องพระเกจิอาจารย์ จึงมีพิพิธภัณฑ์และเจดีย์ที่สำคัญหลายแห่งเพื่อระลึกถึงคุณพระสงฆ์ เช่น พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, อาจารย์วัน อุตตโม เป็นต้น
--แต่วัดเก่าแก่ที่อยู่กลางเมืองและนักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมชมก็คือ
วัดป่าสุทธาวาส
ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แม้ท่านจะมีชีวิตในช่วง ๕ รัชกาลก่อนกึ่งพุทธกาล แต่สาธุชนก็ยังเลื่อมใสศรัทธาคำสอนมาจนบัดนี้ และยังมีผู้มาปฏิบัติธรรมกันอยู่เนือง ๆ
--ผมได้มากราบหลวงปู่นอกจากจะได้ความรู้เรื่องวัตรปฏิบัติต่าง ๆ ของท่านแล้ว ยังได้ชมข้าวของเก่า ๆ ที่มีผู้นำมาถวาย บ่งบอกถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสาน
--เมื่อชมทั่วแล้ว ก็เลยมานั่งคิดได้ว่าคุณงามความดีถึงจะทำมาเก่าแก่มันก็ไม่มีวันตายหรอกครับ กระทั่งสมบัติเก่าเก็บ ก็ยังมีคุณค่าให้คนรุ่นหลังได้จดจำ...เหลือแต่รักเก่า ๆ เท่านั้นล่ะครับ อยากลืมก็ลืมไม่ได้ เฮ้อ
--> วัดนี้สถาปัตยกรรมเรียบง่ายทรงไทยประยุกต์ และน่าชื่นชมที่เขาพัฒนาสะอาดสะอ้านดีมาก คนรักแมวเลยขอให้น้องเหมียวที่นั่นมาช่วยยืนยันอีกแรง
18 พ.ค. 49 / 03:56
0
0
หนมเส้น_retrospective tourist post
:
:
followup id 177947
161.200.255.164 <= 161.200.129.98
#7#
- 177948
(๓) มาถึงสกลนครก็ต้องได้แวะชมหนองหานสักหน่อย
-- ตัวเมืองสกลไม่ใหญ่โตนัก ดูสงบดีเหมือนกัน มีบิ๊กซีเพิ่งเปิดใหม่ มีสวนสาธารณะริม
หนองหาน
แหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่รองจากบึงบอระเพ็ด และกว๊านพะเยา สวนที่นี่กำลังขยายพื้นที่ออกไปมากมายหลายเฟส บรรยากาศดีเยี่ยม
-- เมื่อล้อหมุนออกมาจากเมืองปราสาทผึ้ง มองไปในนาก็มีแต่ความเขียวชอุ่ม ทั้งที่หลังภูพานนั้นเคยขึ้นชื่อว่าแล้งจัด เพราะแถวนี้มีการศึกษาวิจัยเรื่องทรัพยากรน้ำอยู่เยอะ ก็ดูอย่างวิทยาเขตของเกษตรศาสตร์ที่อยู่อีกฟากหนองหานนั่นปะไร
-- แต่ก่อนหน้านั้นยังได้ไปนมัสการ
พระธาตุเชิงชุม
ในเมืองมาด้วย เป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ ถ้าใครรู้จักธาตุหลวงที่เวียงจันทน์ก็คงจะคุ้นตาบ้างเพราะเป็นทรงบัวเหลี่ยมแบบช่างล้านช้าง แต่ด้านล่างลดหลั่นกันลงมาแบบอยุธยา พระธาตุองค์นี้สร้างครอบรอบพระพุทธบาท มีวิหารที่ประดิษฐาน
หลวงพ่อพระองค์แสน
พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ที่น่าสนใจคือยังพบศิลาจารึกอักษรขอมอายุร่วมพันปีกล่าวถึงการถวายบริวารและปัจจัยต่าง ๆ เพื่อสร้างพระธาตุ อดคิดไม่ได้นะครับว่าอิทธิพลขอมแผ่ไปกว้างใหญ่ไพศาลเหลือเกิน
--> เสียดายว่าไม่ได้ถ่ายรูปมาก็เชิญชมในใบปลิวที่รับมากับมือนะครับ น้องนักเรียนหน้าจิ้มลิ้มอุตส่าห์เดินแจกตามรถทีละคัน ย้ำแล้วย้ำอีกว่า "เมาไม่ขับนะ" เอิ๊ก ๆ
18 พ.ค. 49 / 04:02
0
0
หนมเส้น_retrospective tourist post
:
:
followup id 177948
161.200.255.164 <= 161.200.129.98
#8#
- 177949
(๒) จากสกลนครถึงนครพนม โคมดาวแขวนตามหน้าบ้านกันให้คึกคัก ชุมชนชาวคริสต์หนาตาขึ้นโดยเฉพาะที่ท่าแร่ นี่ก็เป็นรอยอดีตอย่างหนึ่งของ "ผู้มาใหม่" จากเวียดนามหลายร้อยปีมาแล้ว
-- มาเกือบจะถึงนครพนม ก็ต้องได้แวะชม
บ้านนาจอก
ที่เดี๋ยวนี้ทำป้ายซะตื่นตาว่า
"หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม"
เข้าไปก็ต้องแปลกใจนะครับ สถานที่สำคัญที่ระดับบิ๊ก ๆ ของทั้งสองประเทศยังต้องมาเยี่ยมเยียน กลับตั้งอยู่ในซอยแคบ ๆ กลางหมู่บ้านชนบทเล็ก ๆ
--ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติความเป็นมาของ
ท่านโฮจิมินห์
ผู้ยิ่งใหญ่ของเวียดนาม และเรื่องราวการต่อสู้กับฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาจนมาเป็นเวียดนามอย่างทุกวันนี้ ตัวพิพิธภัณฑ์ก็คือโรงเรียนเก่าของนาจอกนั่นเอง แต่ละแวกนั้นยังมีบ้านของบั๊กโฮที่สร้างขึ้นมาใหม่ตามรูปแบบเดิม
--
แล้วบั๊กมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ?
คงต้องท้าวความไปถึงยุคขบวนการเวียตมินห์เพื่อต่อต้านฝรั่งเศส ท่านเองได้ร่วมเคลื่อนไหวกู้ชาติอย่างลับ ๆ มาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก แต่เพื่อนบ้านอย่างเมืองไทยนั้นมีชุมชนชาวเวียตอยู่มาก และปลอดภัยจากอิทธิพลฝรั่งเศส จึงมาใช้เป็นฐานเคลื่อนไหวแหล่งใหญ่ เช่นที่กรุงเทพฯ หรือตามภาคอีสาน กระทั่งที่ท่าฬ่อ จ.พิจิตร ก็เชื่อกันว่าท่านเคยมาหลบซ่อนอยู่ และสำหรับที่นาจอกนั้นเป็นบ้านของเพื่อนที่อพยพมาก่อน ท่านใช้ชีวิตอำพรางตนอย่างเรียบง่าย ขณะที่เดินทางเข้าออกเวียดนามอยู่ตลอด รวมแล้วท่านอยู่ที่นี่นานถึง ๗ ปี ก่อนจะกลับไปตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ที่เวียดนามอย่างเป็นทางการ
--> และท่านก็ยังระลึกถึงบ้านที่เมืองไทยเสมอมา กระทั่งหลังอนุสรณสถานที่ฮานอยก็ยังมีบ้านที่จำลองมาจากนาจอกไปปลูกเอาไว้
18 พ.ค. 49 / 04:09
0
0
หนมเส้น_retrospective tourist post
:
:
followup id 177949
161.200.255.164 <= 161.200.129.98
#9#
- 177951
(๑) ผ่านไปแล้วตั้งวันกว่า ๆ เพิ่งจะได้เห็นแม่น้ำโขงกันเต็มตาสักที
--
นครพนม
ยังคงเป็นเมืองที่เงียบสงบ นอกจาก
ตลาดอินโดจีน
แล้วก็ยังมีเสน่ห์ของ
สถาปัตยกรรมแบบอาณานิคม
พบได้ตามตึกเก่า, โบสถ์เก่า,
ศาลากลางเก่า
ที่มีพระบรมรูปทรงม้า (ปัจจุบันคือหอสมุดแห่งชาติ) และ
หอนาฬิกา
กลางเมืองที่ระลึกจากชาวเวียตที่อพยพกลับฮานอยเมื่อครั้งได้เอกราชและแบ่งเป็น ๒ ประเทศ
--แต่อนาคตก็มีอะไรน่าตื่นเต้นอีกเยอะ ตอนนี้สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดต่างรวมตัวกันขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยนครพนม แถมพ่วงเอาสนามบินเก่าเปิดเป็นวิทยาลัยการบินเพื่อรองรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
--เรื่องการคมนาคมก็น่าตื่นเต้นครับ เพราะถ้าเราสามารถข้ามไปฝั่งลาวคือ
เมืองท่าแขก
ได้จะมีทางหลวงไปถึงด่านหลักซาว ข้ามแดนไปชนอ่าวตังเกี๋ยที่เมืองวินห์และกรุงฮานอย แถมยังมีโครงการสร้างทางรถไฟผ่ากลางอีสาน จากบัวใหญ่ที่โคราช มาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร สุดสายที่นครพนม
--ทั้งรถยนต์รถไฟล่ะครับนอนฝันกันอยู่ว่าจะได้ไปถึงเวียดนามเมื่อไหร่ ก็ต้องร้องเพลงรอ
สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ ๓
กันต่อไป
--ย้อนไปถึงยุคก่อนอาณานิคม ทั้งนครพนมและมุกดาหารนั้นมีพื้นที่ครอบคลุมสองฝั่งโขง จรดเทือกเขาอันนัมสูงทะมึน ตอนหลังฝั่งซ้ายกลายมาเป็นแขวงคำม่วนซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ของลาวภาคกลาง แต่ก็ยังคงเหลือฉากหลังที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนสมชื่อเมืองนครพนม แบบในรูปล่ะครับ
--> ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองริมโขงแล้วก็ต้องหาสารพัดปลามาทางกันนะครับ ยิ่งหนนี้มาเที่ยวแม่น้ำโขงซะยาวเหยียด ก็ไม่รู้ว่าแค้นเคืองพวกปลามาแต่ชาติปางไหน เป็นต้องจับมาทอดกระเทียมซะให้หมด !
18 พ.ค. 49 / 04:24
0
0
หนมเส้น_retrospective tourist post
:
:
followup id 177951
161.200.255.164 <= 161.200.129.98
#10#
- 177952
(๐) ล้อหมุนออกจากเมืองนครพนมแล้ว ก็ต้องมาต่อที่นี่ครับ
--ที่ไหนล่ะ ? ไว้มาดูกันฉบับหน้าดีกว่า.
18 พ.ค. 49 / 04:28
0
0
หนมเส้น_retrospective tourist post
:
:
followup id 177952
161.200.255.164 <= 161.200.129.98
#11#
- 177956
มาลงชื่อรอดูงับ
18 พ.ค. 49 / 09:38
0
0
CharmingTitan
: n/a : n/a : n/a
followup id 177956
124.121.34.153
#12#
- 177957
ว้าวๆๆๆ เป็นเส้นทางที่น่าเที่ยวจังเลยอ่า เที่ยวมาก็เยอะเคยไปอีสานครั้งเดียวเอง เหอๆ ขอบคุณสำหรับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวดีๆนะครับ แล้วจะรอติดตามตอนต่อไป อิอิ
18 พ.ค. 49 / 09:48
0
0
will@OSK
:
:
followup id 177957
203.144.167.157
#13#
- 177963
น่าสนใจมากครับ
แล้วจะติดตามตอนต่อไปครับ -^-
18 พ.ค. 49 / 14:04
0
0
jou
followup id 177963
203.170.231.232 <= 10.216.151.141
#14#
- 177968
ชอบรูปที่สอง ถ่ายเองปะครับ สวยจัง
18 พ.ค. 49 / 15:18
0
0
babymine121
: n/a : n/a : n/a
followup id 177968
124.120.129.119
#15#
- 177998
"บางคราวฝนก็ปกคลุมหัวใจที่ว้าเหว่ มันเหงาเสียจนไม่ได้ยินเสียงใคร นอกจากฝนพรำ"
ชอบจังเลย น้องหนมเส้นเขียนเองรึเปล่าเนี่ย ถ้าเขียนเองขอตามเอี่ยวไปเลี้ยงเบียร์ด้วยคน
รูปริมแม่น้ำโขงสวยมาก คือเป็นคนชอบมองท้องฟ้าน่ะครับ
ไปเที่ยวไหนเอามาลงอีกนะ ชอบว่ะครับ
18 พ.ค. 49 / 19:43
0
0
padfoots
: n/a : n/a : n/a
followup id 177998
58.64.103.10
#16#
- 178053
หาคนไปเที่ยวด้วยยยยยยยยย
18 พ.ค. 49 / 23:13
0
0
มาดาม เดอ สวนกุหลาบฯ
: n/a : n/a : n/a
followup id 178053
124.121.5.235
#17#
- 178062
Rep2 รูปถ่ายสุดยอด ชอบฟ้ามักๆ
จะรอดู/อ่านตอนต่อไปนะครับ รัตพงษ์
19 พ.ค. 49 / 06:26
0
0
Scholasticus Rosetum
: n/a : n/a : n/a
followup id 178062
62.254.128.5 <= 82.10.98.3
#18#
- 179271
น่าสนใจมากๆเลย.. ไว้ถ้ามีโอกาสคงได้ไปบ้าง ^_^
27 พ.ค. 49 / 23:12
0
0
NaMi
followup id 179271
221.128.96.235