" เรื่องมงคล " เรื่องมงคล เก่ง วงศ์กล้า keng_wongkla@hotmail.com สองวันก่อน กัลยาณมิตรท่านหนึ่งแวะเข้ามาพบ พร้อมกับนำ “เรื่องมงคล” มาแจ้งให้ทราบ ชื่อว่ามงคลๆ เช่นนี้ ด้วยความเป็นคนปากไว จึงร้องทักไปทันควันว่า “พี่ก็มีเมียมีลูกอยู่แล้ว จะแต่งงานใหม่ พี่ xxx เขายอมหรอครับ ?” จากใบหน้ายิ้มแย้ม ก็เจื่อนกลายไปเป็นเซ็ง พร้อมกับให้อรรถาธิบายยาวเหยียดว่า “พี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าด้วยเหตุผลกลใด ทำไมคนไทยจำนวนมาก รวมถึงเอ็งด้วยเนี่ย ถึงชอบทึกทักเอาว่าเรื่องมงคล ต้องหมายถึงพิธียกเสาลงหลุมท่าเดียว ทั้งที่จริงๆ แล้ว มีเรื่องอีกตั้งมากมาย ที่ก็นับเป็นเรื่องมงคล... บลา บลา บลา...” ไอ้ที่ถูกแกบ่นเสียหูตก อาจจะเป็นเรื่องไม่ค่อยมงคลสักเท่าไหร่ สำหรับกระผม แต่เรื่องที่แกนำมาเล่าให้ฟัง และชักชวนให้กระผมไปเข้าร่วมนั้น นับเป็บเรื่องมงคลจริงๆ มงคลมากขนาดที่กระผมคิดแล้วว่า ต้องนำมาประชาสัมพันธ์เผยแพร่ ชักชวนให้ทุกท่าน โดยเฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เดินทางไปร่วมด้วยช่วยกันให้จงได้ เรื่องของเรื่อง สืบเนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวง สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก นอกจากการระดมสรรพกำลัง ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มสามารถ จากภาครัฐบาล ที่แม้จะมีข่าวคาวๆ อยู่บ้าง แต่โดยภาพรวม ต้องยอมรับว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึงผู้หลักผู้ใหญ่อีกหลายคน ก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจเต็มที่ ไม่มีหลบไม่มีอู้ ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกันโดยตลอด เช่นเดียวกับความช่วยเหลือ ที่หลั่งไหลมาจากพี่น้องร่วมผืนแผ่นดิน ผ่านการบริจาค ทั้งเครื่องใช้ไม้สอย อาหารสดอาหารแห้ง รวมถึงเงินทองอีกจำนวนมาก เพื่อเป็นแรงใจให้แก่ผู้ประสบภัย เหนือสิ่งอื่นใด สำหรับปวงชนชาวไทย คือ น้ำพระทัยจากพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงเป็นห่วงเป็นใย และมีพระเมตตา เสด็จออกเยี่ยมเยียนพสกนิกร อย่างไม่ทรงกังวลถึงความเหน็ดเหนื่อยพระวรกายแต่อย่างใด ทั้งยังพระราชทาน/ประทาน พระราชทรัพย์/ทรัพย์ส่วนพระองค์ แก่ไพร่ฟ้า ให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ตามสมควร ในยามวิกฤติ เยียวยาจิตใจให้พร้อมที่จะก้าวเดินต่อไป หนึ่งในบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง ที่ทรงงานหนักอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของประชาชนชาวไทย ตลอดห้วงระยะเวลาแห่งภิบัติภัยครั้งที่ผ่าน ก็คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร หรือที่ชาวบ้านอย่างเราๆ นิยมเรียกขานกันแต่เพียงสั้นๆ จนติดปากว่า พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ หลายท่านอาจทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ทรงกำลังศึกษาในระดับปริญญาเอก สาขาวิชาสังคมศาสตร์ อยู่ที่คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาตั้งแต่เทอมปลาย ปีการศึกษา 2552 ด้วยเหตุที่เสด็จลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงทรงมีโอกาสได้พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวความคิด และงานร่วมกับภาคประชาสังคมและประชาชน ในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคประชาสังคมและประชาชน บริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา อันเป็นผลจากการที่ทรงลงพื้นที่อย่างจริงจังด้วยพระองค์เอง ซึ่งข้อนี้ กระผมสามารถยืนยันจากประสปการณ์ ที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้ารับเสด็จในหลายพื้นที่ ทั้งการเสด็จด้วยรถจีเอ็มซีทหาร ที่โดยการออกแบบ มิใช่เป็นไปเพื่อสนองต่อความสะดวกสบาย แต่เน้นประโยชน์ในเชิงใช้สอย รวมถึงการเสวยพระกระยาหาร ที่หลายต่อหลายครั้ง ผู้เฝ้ารับเสด็จตามริมถนนหนทาง ก็มักมีโอกาสได้เห็นเช่นเดียวกันกับกระผม ว่าก็เสวยขณะประทับอยู่บนรถจีเอ็มซีทหารนั่นเอง ที่สำคัญก็คือ พระกระยาหารที่เสวย ก็มิได้มีการจัดเตรียมเป็นพิเศษ อย่างที่คนนิยมละครจักรๆ วงศ์ๆ จินตนาการ แต่เป็นอาหารชนิดเดียวกัน กับที่ประทานให้แก่ประชาชนนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ จึงทรงเข้าพระทัยถึงความทุกข์ยาก รวมถึงเล็งเห็นข้อจำกัดทางกายภาพ และองคาพยพอื่นๆ ของพื้นที่ ในการบริหารจัดการน้ำ ตลอดจนการบรรเทาความเดือดร้อนของพสกนิกร การณ์นี้ จึงประทานพระดำริให้แก่คณพระสหายร่วมชั้นเรียน ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาควิชาการ อันมีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญ จัด โครงการวิชาการเพื่อสาธารณะประโยชน์ ข้อเสนอของชุมชนว่าด้วยการจัดการน้ำ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 1 “ถดถอย คอยที่ มีส่วนร่วม: ทางเลือกที่ไม่ง่าย” ใน วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2555 นี้ ตั้งแต่ เวลา 09.00 น. ถึง 16.30 น. ณ ห้องประชุม กำพล อดุลวิทย์ อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและรอบด้านร่วมกัน ถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ของรัฐบาลในอนาคต รวมถึงระดมสมองร่วมกัน ระหว่างภาคประชาสังคม ประชาชน ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อเสนอประเด็นทางเลือก ว่าด้วยการจัดการน้ำฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ฉบับของชุมชนเอง ภาพรวมของโครงการตามที่ระบุมาในเอกสาร เริ่มจากการบรรยายสรุปแนวทางการบริหารจัดการน้ำ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ของรัฐบาลในอนาคต โดย นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรักษาการ เลขาธิการสำนักนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ ผู้มีอำนาจหน้าที่ตัวจริงเสียงจริงของฝากฝั่งรัฐบาล ขณะนี้ ตามด้วย การอภิปรายเสริมแนวทางบริหารจัดการน้ำ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ของรัฐบาลในอนาคต โดย นายอภิชิต ประสพรัตน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ตัวตั้งตัวตี แผนปฏิบัติการ “น้ำวิ่งเร็ว รถก็วิ่งได้” รองศาสตราจารย์ ชัยวัฒน์ ขยันการนาวี ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธันวา จิตต์สงวน ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร และ นายแพทย์ วัฒนา เทียมปฐม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธมณฑล โดยมี นางสาวมณีรัตน์ มิตรปราสาท ลูกศิษย์ก้นกุฏิของ รองศาสตราจารย์ ดร.หม่อมราชวงศ์อคิน รพีพัฒน์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ก่อนจะเข้าสู่เวทีการระดมสมอง เพื่อเสนอประเด็นทางเลือก ว่าด้วยการจัดการน้ำฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายในชุมชน ซึ่งนอกจากความหลากหลายของภาคส่วนที่จะเดินทางมาเข้าร่วม ด้วยหวังว่าจะสามารถผลักดันแนวทางเลือกเพื่อแก้ไขปัญหาจากฝากฝั่งของประชาชน ตามคำบอกเล่าของกัลยาณมิตรท่านนี้แล้ว เอกสารยังระบุรายชื่อผู้นำเสนอประเด็นหลัก ที่ล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้คล่ำหวอดในแวดวง รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงทั้งสิ้น อาทิ ศาสตราจารย์ สุริชัย หวันแก้ว และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รองศาสตราจารย์ ดร.บัญชา ขวัญยืน คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ (กำแพงแสน) และ รองศาสตราจารย์ ดร.สมเกียรติ วันทะนะ อดีตคณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายกมล เปี่ยมสมบูรณ์ ประธานสภาลุ่มน้ำท่าจีนนายประเชิญ คนเทศ ที่ปรึกษาชมรมคนรักแม่น้ำท่าจีน รวมถึง นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธาน มูลนิธิเพื่อการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ โดยมีผู้ดำเนินรายการคือ นายกิตติ สิงหาปัด ผู้ประกาศข่าวชื่อดังจาก รายการข่าว 3 มิติ นอกจากนะเป็นโครงการวิชาการเพื่อสาธารณะประโยชน์ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องมงคลมากแล้ว นี่ยังเป็นโครงการวิชาการเพื่อสาธารณะประโยชน์ตามแนวพระดำริ จึงยิ่งนับเป็นเรื่องมงคลมหามงคล ผู้ที่รู้จึงต้องบอกกันต่อๆ ไปครับ เพราะเรื่องพรรค์นี้ สำนวน ศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ เครืองาม ท่านว่า “ยิ่งพูด ยิ่งเป็นมงคล...” -------------------------------------- ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2555 หน้า 6 19 มี.ค. 55 / 23:42 0 0 finn (3370) : view 1766 : discuss 0 : rating - : bookmarked 0 : vote 0 27.130.111.39

กระทู้นี้ต้องล็อกอินก่อนแสดงความคิดเห็นครับ