|
|
|
" หลอกให้คนอ่าน 2 " |
|
|
คุณอาจจะได้บางสิ่งจากการหลอกครั้งนี้ หรือไม่ ขึ้นกับบุคคล
ผมเขียนโน๊ตนี้เพื่อจุดประสงค์สำคัญ 2 อย่าง หนึ่งคือเพื่อบันทึกเรื่องราวความทรงจำนี่เก็บไว้ เเละเพื่อเป็นสิ่งสะท้อนเเนวความคิดที่ในสมัยนี้อาจจะดูค่อนข้างเเปลก เเละดูจะลบเลือนผ่านไป กลายเป็นเเนวความคิดที่ดูโบราณไร้ความหมาย เเต่หากมองในมุมกลับคือ หากเราไม่ให้ความสำคัญต่อสิ่งทางใจ โลกนี้จะไร้ความหมาย จะมีเพียงวัตถุที่ไร้ชีวิต เเละวิญญาณความรู้สึก
หนึ่งปีที่ผ่านมาดูเสมือนหนึ่งเช่นวันวานที่ผ่านไปเพียงไม่กี่ลมหายใจ ครั้งหนึ่งเวลาดูเหมือนจะเดินช้าจนเราไม่สามารถจะทนอยู่ได้ เเต่เมื่อมองดูอย่างเเจ่มชัดเเล้ว เวลานั้นมันไม่ได้สำคัญเท่ากับความทรงจำที่คงอยู่ เวลานั้นเป็นเพียง "สิ่งสมมติ" ที่เราพยายามสร้างขึ้นมาเพื่อวัดความเป็นไปเท่านั้น
ในชีวิตของคนเรา เราพยายามไขว่คว้าบางสิ่ง.. ความรัก เงิน อำนาจ ที่ล้วนเเล้วเเต่เป็นเพียงสิ่งสมมติ เราพยายามหามา เเย่งมา เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาครอบครอง เเต่ทุกสิ่ง ในวันหนึ่งก็จะเลือนเเละลดเลือนจากหายไป
ผมเคยคิด ผมเคยรู้สึก ผมเคยฝันว่า ความรู้สึก ความรัก มันจะอยู่กับเราได้หากเราพยายามที่จะตระหนักรู้ คงมั่นในใจของตนเพียงพอ เเต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น วันเวลาจะทำให้ความรู้สึกมันจางลง เเละลบเลือนไปในที่สุด อาจจะเรียกว่าเป็นความเศร้าที่สุดในชีวิตเมื่อผม "เข้าใจ" ถึงความจริงนี้ คำพูดเก่าๆเดิมๆที่ทุกคนก็คงเคยได้ยินมา เเต่ทว่าน้อยคนที่จะเข้าใจเเละซึมซับถึงความหมาย
มันเป็นความเศร้าที่บอกไม่ถูก มันไม่ใช่การเสียสิ่งของ ไม่ใช่การที่ไม่ได้ครอบครอง เเต่มันเป็นความเศร้าที่เกิดจากความเข้าใจว่า เราไม่สามารถหาสิ่งใดๆ ที่คงมั่นคงอยู่ได้ในโลกนี้ เเม้เเต่ความคิดเเละจิตใจของเรา บางสิ่งถึงเเ้ม้เราจะพยายามเพียงใด พยายามจะจดจำมันไว้เพียงใด มันก็จะจากเราไปอยู่ดีในที่สุด อาจจะเหลือเเต่ความทรงจำที่เริ่มลบเลือนไปทุกวัน
เรื่องต่อมาก็คงเป็นเรื่องของศรัทธา, ชีวิต เเละความรัก
มันก็เป็นเรื่องตลก เเละอาจจะเรียกว่า ความเข้าใจผิดที่น่าเวทนา ของคนบางกลุ่มที่ทำให้ความหมายของความรัก มีคุณค่าต่ำลง (depreciate) เเละคำว่าคุณค่าในที่นี้ ไม่ใช่หมายถึงราคา
ขอขยายความส่วนนี้ : คุณค่าหมายถึงค่าในเนื้อเเท้ สิ่งที่มีอยู่จริง ไม่ใช่สิ่งลวงหรือกำหนดขึ้นมา ส่วนราคาคือสิ่งที่กำหนดขึ้นมาจากคนบางกลุ่ม ความคิดบางประเภท กระเเสสังคม บลา บลา บลา ยกตัวอย่างที่เห็นชัดคือ คนเราพยายามเเต่งตัวเพื่อสร้างราคาของตนในสังคม, ดาราที่มีชื่อเสียง คือมีราคา, เเต่ทว่ามีคนบางกลุ่มพยายามเอาความรักไปขึ้นกับราคา ซึ่งน่าเวทนา
อาจจะเรียกว่าโลกาภิวัฒน์ ของสังคมสมัยใหม่ เเนวคิดที่ดูเหมือน "หรู" เเละดูดีตามความหมายของบุคคลบางกลุ่ม เเต่ก็น่าเศร้านักที่คนก็ยังตามกระเเสเหล่านี้ ทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นผู้กำหนดความเป็นไป ไม่รู้ด้วยซ้ำใครเป็นคนประมาณว่า "ไปเดินสยามใส่กางเกงยีน" ในความคิดผมคือ "ไร้สมองสิ้นดี คนเหล่านี้ทำตัวเฉกเช่น bot ถูกตั้งโปรเเกรม!!"
อืมอันนี้ค่อนข้างจะนอกเรื่อง.. กลับเข้ามา ......
คนบางคนพูดประมาณว่า "นี่เเหละคนนี่ใช่ เเละคิดว่าตนรักคนๆนั้นเข้าเเล้ว" เวลาผ่านไปไม่ถึง 1 สัปดาห์.. ก็ไปพูดว่ารักอีกคนหนึ่ง........ เเละหากคิดดู เมื่อมีคนทำอย่างนี้มากขึ่นเรื่อยๆ คุณค่าของคำว่ารักก็ลดลง... โอเคมันไม่ผิดกฏหมายหรอก เเละผมก็เชื่อใน individualism ในระดับหนึ่ง เเต่ก็เป็นข้อสังเกตที่น่าเศร้าใจไม่น้อย
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้เกี่ยวกับคุณค่าเเละราคา คนเราพยายามสร้างราคาที่เกิดความเป็นจริง หากจะเปรียบกับสภาวะตลาดก็สภาวะกระทิงเเบบขั้นที่ไม่ลืมหูลืมตา เหมือนอเมริกาก่อนเจ๊ง หรืออีกตัวอย่างคือ "การประกวดความสวยงามต่างๆ" ในมุมมองขอย้ำว่ามุมมองผม การประกวดเหล่านี้เป็นการเรียกราคาค่างวดของตนให้สูงขึ้น ในข้อตกลงเเลกเปลีย่นที่เรียกว่า "การเเต่งงาน" เเละก็อาจต้องพูดว่า น่าเศร้าใจยิ่งนักอีกครั้ง
ถึงเเม้ในที่สุดเเล้วความรักอาจจะไม่ได้สำคัญ ทุกสิ่งอาจจะไม่สำคัญ เพราะมันไม่มีอยู่จริง ความรักอาจจะเป็นเพียงสิ่งที่ทำให้คนสองคนใช้ชีวิตร่วมกัน เเละมีข้อสังเกตที่ผมเคยได้ยินมาคือ คนสองคนเริ่มคบเริ่มชีวิตคู่ด้วยความรัก เเต่เวลาผ่านไปความรักจะจืิดจางเเละสิ่งที่จะทำให้สองคนนั้นคงอยู่ คือความเข้ากันได้ (companionship) การเป็นเพือน คอยดูเเลเเละห่วงใยกัน
เเต่ข้อสังเกตของผมคือ คนเราอายุ 80 ก็ถือว่าเยอะเเล้ว อาจจะเริ่มเเต่งงานตอน 30 เวลา 50 ปีเรียกได้ว่าค่อนชีวิต หากเป็นเสมือนหนึ่งบุคคลบางกลุ่มที่บอกรักใหม่ทุกๆสัปดาห์ คงยาก โอเคผมไม่พูดว่าเป็นไปไม่ได้ เเต่มันคงยากที่เขาเหล่านั้นจะมีคู่ เพียงหนึ่ง
ผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "ดีไซน์รัก" ที่เปลี่ยนมุมมองผมในหลายๆเรื่อง นับเป็นหนังสือที่คุ้มกับเวลาที่เสียไปอย่างเเท้จริง ถึงเเม้ผมจะนั่งอ่านฟรี ไม่ได้ซื้อมาก็ตามที .. หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมเข้าใจว่า ความรักที่เรามีคือรักทุกๆคน รักเเบบไม่มีเงื่อนไข รักให้ไปโดยไม่หวังผล เเละเเน่นอนคำพูดนี้ชั่งดูธรรมดาเหลือเกิน ทุกคนคงเคยได้ยินสัก 10 รอบเเล้ว .. ในตอนเเรกผมก็คิดเช่นนั้น เเต่หากเเต่ความเ็ป็นจริงคือ ความเข้าใจผมนั้นมันน้อยนิดเหลือเกิน
ความรักที่มีคือรักทุกคน มันดูจะขัดเเย้งกับคำพูดก่อนหน้านี้ เเต่หากมีข้อเเบ่งเเยกเดียวคือ คนที่บอกรักคนๆใหม่บ่อยเหลือเกิน เปลี่ยนคนรักบ่อยเหลือเกิน ย่อมไม่เห็นความรัก เเต่เห็นบุคคลคนนั้น คือเห็นวัตถุไม่ได้เห็นตัวตนที่เเท้จริง ไม่ได้เห็นคุณค่า เห็นเพียงเเต่ราคาภายนอก ที่คนๆนั้นอาจจะจงใจสร้างขึ้นมา หรือมีอยู่เเล้วเพียงเท่านั้น
ในที่สุดเมื่อเรารักคนทั้งโลก เรารักเพราะเรารัก อาจจะฟังดูไร้ตรระกะ เเต่เมื่อเรารักเพราะเรารัก เรารู้สึกว่าเรารักคนที่เดินผ่านเรามา เราอยากจะมอบสิ่งดีๆเเก่บุคคลเหล่านั้น นั่นคือความรักที่เเท้จริง โอเคอย่างน้อยอาจจะในความคิดผม เเละ ณ ตอนนี้ก็เป็นเพียงเเนวความคิด ที่คิดได้ เเต่ทำได้ยากยิ่ง
สำหรับผม ผมรักคนๆหนึ่ง เเนวความคิดว่าจะรักทั้งชีวิต ทำได้หรือไม่ ก็ต้องรอสิ่งสมมติที่เรียกว่า "เวลา" มาตัดสินตามเเบบอย่างคนทั่วไป มันอาจจะลบเลือน อาจจะจางเเละลดลงไปทุกวัน เเต่ความรู้สึกอบอุ่นในใจเป็นสิ่งที่สัมผัสได้เฉพาะบุคคล ผมไม่อาจจะอธิบายถึงความอบอุ่นในใจเป็นภาษาเขียน หรือภาษาพูดได้ ไม่อาจจะเปรียบเทียบหรือพรรณนาให้ใกล้เคียง
วันหนึ่งคุณจะเข้าใจ หรือหากเข้าใจเเล้ว ก็จงรักษาความรัก ที่คือรักจริงๆตลอดไป
คนเราอาจจะตามหาคนบางคนทั้งชีวิตเเต่ไม่เจอ คนบางคนเจอเเต่ไม่เห็นคุณค่า เเต่หากคุณเจอเเละตัดสินใจ จงเก็บรักนั้นไว้เเละเห็นค่าของมัน |
|
|
29 เม.ย. 55 / 00:21 |
|
1
0
Alphatio [Full speed!!] (3374) : |
|
|
|
|
|
view 2957 : discuss 1 : rating - : bookmarked 0 : vote 0
|
171.97.19.117
|
|
|
|