|
|
" ประเมินผลได้ ผลเสีย สถานการณ็ และโอกาส ในสถานการณ็นิสิตฝืกสอน มศว " |
|
|
เรื่องราวเกิดจาก
ในส่วนของ มศว
@ หน่วยงานที่ขอความอนุเคราะห็จากโรงเรียนส่งนิสิตมาฝืกสอน ค่อนข้างจะขาดความพร้อมในการประสานงาน โดยเฉพาะเมื่อต้องส่งนิสิตที่มีบุคลิกเซนซิติฟมาฝืกสอน ควรแจ้งข้อมูล รายละเอียดของนิสิตแต่ละคนให้โรงเรียน มาทำการปรืกษาหารือกับโรงเรียนในรายละเอียดล่วงหน้า มิใช่ส่งเฉพาะรายชื่อ ปัญหาก็จะไม่เกิดขื้น ควรทำเช่นนี้กับทุกโรงเรียน
มศว ต้องเพิ่ม คัด บุคลากรประสานงาน จัดทำระบบ ข้อมูลโรงเรียนทุกแห่ง ยุคนี้ทุกโรงเรียนมีอัตลักษณ็ มิฉะนั้น ปัญหาก็จะเกิดขื้นทั้งกับนิสิตฝืกสอน ชาย หญิง และเพศท่ี่สาม
@ การฝืกสอนในยุคนี้เป็นเรื่องเซนซิติฟ ตั้งแต่คุณภาพ ความพร้อมของแต่ละโรงเรียนที่ต่างกันมาก การเลือกโรงเรียน 20 โรงเรียน จืงต้องพิจารณามิใช่เพียงความสะดวกในการเดินทางของ นิสิต และอาจารย็ แต่ควรพิจารณาคุณถาพ ความพร้อมของนิสิตให้สอดคล้องกับโรงเรียน และน่าจะมีโครงการที่ innovative ให้นิสิตได้เรียนรู้ต่างจากการฝืกสอนที่ทำกันซ้ำซากรูปแบบมา 50-60 ปี โดยไม่เปลี่ยนแปลง มหาวิทยาลัยต้องจัดงบพิเศษขื้น
@เมื่อมีข้อขัดแย้งขื้น ในปัญหาที่เบลอ เป็นหน้าที่ของผู้ขอความอนุเคราะห็ ที่จะต้องรีบปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม การเล่นเกมส็โดยเอาหนังสือราชการให้นิสิตออกมาแคมเปญ ขยายผล เค้าใม่ทำกัน มศว อาจมองว่านี่ คือโรงเรียนหนื่ง โดยไม่เข้าใจว่าโรงเรียนดังกล่าวมีศิษย็เก่าทำงานสอนมหาวิทยาลัย จำนวนเพียงพอที่จะตั้งมหาวิทยาลัยชั้นนำได้ 2 แห่ง มันเลยเหนื่อยมากๆ
การขยายประเด็นสู่สื่อสาธารณะ
แล้วก็มีผู้ที่อ้างว่าเป็นศิษย็เก่าสวนกุหลาบ และเรียนอยู่ที่ มศว ก็ได้นำเรื่องราวขื้นโพสท็ในพันทิพ และสวนบอร็ด โดยใช้ข้อมูลจากฝ่ายนิสิตฝืกสอน และหนังสือราชการ เน้นประเด็นการเหยียดหยามเพศที่3 ก็คงด้วยความรักในสองสถาบัน และ เกรงว่าประชาคมอัตลักษณ็จะมารุมบ้อมโรงเรียนละกระมัง
@ ในweb ของประชาคมอัตลักษณ็ กลายเป็นว่านิสิตฝืกสอนโดนถล่ม กลายเป็นห้าสิบ ห้าสิบ ในประชาคมนี้เค้าแยกคลาสกันมาก ตั้งแต่การแต่งกาย การแสดงออก พฤติกรรม การรู้จักกาละเทศะ การรู้จักว่าสิ่งใดควรมิควร อะไรได้ มิได้ จะเอามาให้อ่านก็จะฮากันดิ้น
@การใช้สื่อสาธารณะมิได้เป็นการแก้ปัญหาในประเด็นนี้ ประเด็นสีเทา เช่น ความเชื่อทางศาสนา การเมือง ลัทธิ เพศที่สาม ทอม ดี้ ตุ๊ด วาย อย่าร้าง เรย่า ศักดิ็ศรีของประเทศ การเปรียบเทียบสถาบัน ไม่มีข้อสรุปหรอก มันเถียงกันมาแต่ยุคโรมัน กรีก แล้ว
@ฝากไว้ให้เป็นข้อคิดของชาว มศว และชาวสวนกุหลาบ ว่าการแก้ปัญหาการบริหาร ประสานงาน ในเรื่องที่เบลอนั้น เค้าใช้การคุยกัน ไม่ใช่ออกสื่อ ถ้าจะออกสื่อ จงแน่ใจว่าอ่าน scenerio ได้ขาด สามารถคุมเกม คุมทิศทางด้วยข้อมูล แผน การวิเคราะห็ การโต้แย้งว่าจะจบอย่างไร ต้องการอิมแพคท็อย่างไร จะต้องlead ได้ทั้งการพูด การเขียน การปล่อยข่าว การดริฟท็ มันเป็นศิลปะของการเมืองการปกครอง การฑูต การประชาสัมพันธ้ การโฆษณา
@สรุปแล้ว การเล่นผ่านมีเดีย คนเสีย คือ มศว อาจารย็ นิสิตทั้งมหาวิทยาลัย พี่เก่าก็เสียใจ จะประสานฝืกสอนกับโรงเรียนต่างๆในอนาคตก็ยากกว่าเดิมมาก มันจะมีปัญหาการหางานทำมาเกี่ยวด้วย นิสิตก็ย้ายไปฝืกที่อื่น ตอนนี้ มศว ปวดหัวมาก
เก็บไว้เป็นบทเรียน คงได้เป็นนักการเมืองที่เก่งกันหลายคน
ในเวบของประชาคมอัตลักษณ็ นางหนื่งบอกว่า เทออย่าคิดว่าจะเคี้ยว สก ง่ายเหมือนบด นะ ระวังมันจะทิ่มเอา อีดอก 55 |
|
|
02 มิ.ย. 55 / 10:41 |
|
0
0
jaguar (6859) : n/a : n/a : n/a |
|
|
|
|
|
view 2509 : discuss 8 : rating - : bookmarked 0 : vote 0
|
124.122.223.151
|
|