[suanboard monotone logo : 2777 bytes]
[header decor line : 64 bytes]
HOME RULE FAVOURITE MEMBER ZONE REACTIVATE FORGET PASSWORD    

SEARCH [icon freecompose : 217 bytes]
[icon register : 195 bytes] สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก : โพสต์รูป, รูปแบบตัวอักษร, ไอคอน, bookmark, ค้นหาข้อความ ฯลฯ [icon login : 178 bytes]

[icon-delete : 101 bytes]
" ยอดมนุษย์เงินเดือน ... ชีวิตจริงมันแย่อย่างนี้เลยเหรอครับ "
ดูแล้วเซ็งชีวิตครับ :(
13 ธ.ค. 55 / 23:40
0 0
เบอร์10 [icon smile : 92 bytes] (7098) : n/a : n/a : n/a
view 3935 : discuss 11 : rating - : bookmarked 0 : vote 0 115.67.34.2

#1# - 675168 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ยังไม่ได้ดู แต่เท่าที่ฟังจากเพื่อนในออฟฟิศไปดู มันบอกว่าไม่เท่าชีวิตจริง ฮ่าๆๆ
14 ธ.ค. 55 / 00:14
0 0
kak [icon smile : 92 bytes] (719) : n/a : n/a : n/a
followup id 675168 14.207.143.49

#2# - 675176 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] 55 ผมก็มนุษย์เงินเดือนเต็มขั้นครับ

แต่ก็Happy ระดับหนึ่งกับชีวิตการทำงาน

ตอนจบวิศวใหม่ๆที่บ้านจน จะเข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจก็ไม่ไหวเงินเดือนมันน้อย

ก็ทำเอกชนมาเรื่อย

พอเมียท้อง ก็ให้ออกจากการเป็นพยาบาล มาดูแลลูกดูแลบ้าน ผมทำงานคนเดียว

ถึงวันนี้ ถ้าคิดเกษียนตอน 55 ปี ทรัพย์สิน+เงินสด ก็ราว 25 ล้านบาท

ถ้าเกษียน 60 ก็น่าจะราวๆ 30 ++

Plan ให้ลูกจบหมอศิริราช ต่อในแล้ว ต่อนอกอีก

ก็เป้นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ ที่พอเพียงกับที่มีครับ
15 ธ.ค. 55 / 08:02
0 0
m.... [icon smile : 92 bytes] (6923) : n/a : n/a : n/a
followup id 675176 61.90.26.245

#3# - 675192 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ผมเชื่อว่าชีวิตคนเราชอบไม่เหมือนกัน
จะทำงานบริษัทหรือไม่ แต่ถ้ามีความสุขในสิ่งที่ทำ มีครอบครัวที่อบอุ่น จ่ายน้อยกว่ารายรับ
ขอแค่ทำได้อย่างนี้ ถึงชีวิตแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่ก็มีความสุขกันได้ทุกคนครับ

^^
16 ธ.ค. 55 / 22:40
0 0
เบอร์10 [icon smile : 92 bytes] (7098) : n/a : n/a : n/a
followup id 675192 115.67.101.24

#4# - 675195 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ถามอะไรแบบเด็กๆหน่อยได้มั้ยคะ - เราสงสัยว่าคนรุ่นใหม่ต่อไปจะตั้งตัวได้ยังไงเพราะเงินเดือนต่ำ อัตราการแข่งขันสูงแบบนี้

http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12978940/B12978940.html

กำลังหาข้อมูลพอดี ผมไม่ได้หิวเงิน แต่กำลังรู้สึกว่าเดินผิดทาง
พูดจริงๆนะ ที่แนะแนวเด็กเรื่องเงินเดือนเนี่ย ผมว่ามันจำเป็น
แต่ไม่ครบพอที่จะให้เด็กอย่างพวกผมมีทางเลือกอื่นในชีวิตเลย

กระทู้นี้เขียน Timeline ของเงินเดือนและอสังหาริมทรัพย์ได้ชัดเจน
บอกเหตุผลต่างๆที่มีผลกระทบต่อเงินเดือนและราคาอสังหาได้น่าสนใจ

น่าจะเป็นพี่ฮาวายที่โพสใน FB ถ้าผมเข้าใจผิดรบกวนช่วยบอกด้วยครับ
กระทู้ระดับเทพจริงๆครับ

ปล. มีหลายความเห็นแนะนำน่าสนใจว่าเป็นลูกจ้างเพื่อเก็บประสบการณ์
บางความเห็นไม่แนะนำ Freelance มันเริ่มต้นชีวิตไม่ได้เลย
ส่วนผมเองไม่ได้บอกว่าอย่าเป็นลูกจ้าง แต่ถ้าจะเป็นต้องได้อะไรมากกว่าเงินเดือน
17 ธ.ค. 55 / 02:03
0 0
เบอร์10 [icon smile : 92 bytes] (7098) : n/a : n/a : n/a
followup id 675195 115.67.162.243

#5# - 675196 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] คำถามของน้องเบอร์ 10 พี่ว่า อาจจะต้องถามย้อนกลับหน่อยนะน้อง

ว่าคนสมัยก่อนเนี่ย เค้ามีเงินเดือนเยอะๆตั้งแต่จบใหม่เลยมั๊ย สามารถสร้างบ้านหลังจากทำงานไม่กี่ปีเลยมั๊ย แล้วสถานที่ตั้งบ้าน เป็นบริเวณความเจริญเก่ามั๊ย


พี่ว่า เงินเดือนคนสมัยนี้ไม่ได้ต่ำหรอกครับ แต่หัวเราสูงเกินกว่าจะรับฐานเงินเดือนต่ำๆได้ต่างหาก ไม่อยากทำงานลำบาก แต่ก็ไม่อยากเอาเงินเดือนต่ำๆ

freelance ที่บอกว่า เงินไม่พอ พี่ว่าก็ไม่อีก เพราะถ้าว่าจริงๆตอนนี้พี่ก็เหมือนเป็น freelance หน่อยๆ ทำงานน้อยๆ (ยังเรียนอยู่) แต่ก็มีเงินเข้า-ออกโอเคอยู่นะ (แต่ยังไม่มีเมีย-ลูก เท่านั้นเอง ฮ่าๆ) มันขึ้นอยู่กับว่า เราทำงานอะไร และรุ่งขนาดไหน


สรุึปคือ โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่า หาประสบการณ์ก่อนหาเงินดีกว่า เพราะมันจะทำให้ไปรุ่งในอาชีพนั้นๆมากๆ :D
17 ธ.ค. 55 / 09:37
0 0
regites [icon smile : 92 bytes] (310) : n/a : n/a : n/a
followup id 675196 1.179.129.42 <= 192.168.1.13

#6# - 675221 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ถ้าเบอร์10มองกระทู้นั้นในพันทิปก็อาจจะคล้อยไปทางที่ว่าทางของพนักงานกินเงินเดือนธรรมดามันช่างหดหู่ดูไม่มีอนาคต

แต่ถ้าเบอร์10ลองดูให้กว้างขึ้นมาหน่อยก็จะเห็นได้ว่ามันก็มีอีกเยอะที่ได้เป็นกอบเป็นกำและมีความสุขกับสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์เงินเดือน มันอาจจะมีน้อยที่ได้เดือนละเป็นแสนๆล้านๆและอีกนานไม่รู็เมื่อไหร่ถึงจะได้แต่ประเด็นคือมันมี และถ้ามันมีและคนอื่นทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ เหมือนที่แต่ก่อนเบอร์10ชอบคิดแผนธุรกิจมาแล้วมีคนบอกว่าไม่ได้จะไหวแต่เบอร์10เองก็เชื่อว่ามันได้เพราะเบอร์10จะทำ

มีหลายคนชอบอ้างว่าไม่ชอบงานกินเงินเดือนเพราะทำงานกับคนอื่นไม่ได้ต้องเป็นเจ้าของกิจการ ผมว่านั่นมันยิ่งต้องโคตรมีทักษะในการทำงานการคุมคนเลยนะ

ทำงานกินเงินเดือนได้ปีละเป็นสิบๆหรือบางทีร้อยล้านต่อปีในโลกนี้ก็มีอยู่เยอะ เป็นเจ้าของกิจการผูกคอตายหนีหนี้ไปในโลกนี้ก็มีอยู่เยอะ และกลับกันก็เช่นกัน อยู่ที่ตัวเราแหละครับ
25 ธ.ค. 55 / 15:50
0 0
37235@OSK116 [icon smile : 92 bytes] (2209) : [ protect email from spamware ]
followup id 675221 119.46.218.1

#7# - 675237 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ขอบคุณพี่ๆที่เข้ามาตอบครับ จริงๆก็คงเป็นแบบที่พี่เขียนมาจริงๆ

ทีนี้ผมจะลองเล่าว่าอะไรเด็กอย่างพวกผมถึงคิดว่ามันแย่ (เรื่องราวจากหนังที่ได้ดู)

1. รายรับ จริงๆผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ผมว่าเด็กยุคผมหลายคนก็เป็นแบบนั้น
แต่จะให้มาเริ่มงานรายได้น้อยๆ แล้วต้องแบเงินขอแม่ไปจนอายุ 30 นี่ก็ไม่ไหว อายเค้า
จริงๆต้องลดคุณภาพชีวิต กินใช้อย่างประหยัด คนอื่นก็ทำกันได้
แต่คิดๆอีกทาง แล้วทำไมผมต้องประหยัด มาคิดหาเงินเยอะๆไม่ดีกว่าเหรอ
และผมต้องพิสูจน์ตัวเองให้ครอบครัวขนาดใหญ่ของผมเห็นว่าผมไม่ได้โตมาเพราะเงินอัดฉีดอย่างเดียวจนหาเงินเองไม่เป็น
ผมยังมีโอกาสเลือกชีวิตที่เหลือได้

2. รายรับ-รายจ่ายไม่สมดุล จากข้อ 1 คือ ผมใช้ iPhone ผมอยู่ในประเทศที่รถยนตร์แพงกว่าอเมริกา
อาหารเดี๋ยวนี้ ถ้ากินในห้างที่กรุงเทพนี่ก็จานละ 7-10 เหรียญ ราคาน้ำมันกับราคาทองพอๆกันทั้งโลก
กล้อง Nikon ผลิตในไทย แต่ราคาขายแพงกว่าอเมริกา
แต่รายรับจากเงินเดือนในไทย ต่างกับประเทศอเมริกาเยอะ
ผมไม่เทียบดัชนีอะไรให้ยุ่งยาก เอาแค่อยากใช้ของที่ไหนก็เทียบที่นั่น อูกันด้าไม่คิดไอโฟน ก็ไม่ต้องเอามาเทียบ
สรุปของข้อนี้คือ สินค้ามาตรฐานเท่ากันทั่วโลก แต่มนุษย์เงินเดือนไทยหาเงินมาซื้อได้ยากกว่า

3. ที่เห็นในหนัง งานที่ทำมันไม่ได้น่าทำเลย
เด็กยุคผม ถูกสอนให้ทำสิ่งที่รัก เพื่อสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้สังคม
งานที่ทำต้องได้ความรู้และพัฒนาตัวเอง งานที่มีความหมาย ให้มันคุ้มกับที่ตื่นเช้ามาทำงาน
เอาง่ายๆ ถ้าให้เลือกระหว่างเป็นสถาปนิกทำงานเหนื่อยมากได้เงิน 8หมื่น กับเป็นคนเก็บเงินในตู้ทางด่วนได้ 1 แสนต่อเดือนไปตลอดชีวิต
หลายคนในยุคก่อนอาจเลือกเป็นคนเก็บเงินในตู้ทางด่วนแต่เด็กอย่างผมเลือกที่เป็นสถาปนิก
ต้องดูหนังหนะครับ ชีวิตเด็กฝึกงานหรือคนทำงานแล้ว งานที่ทำไม่ได้เติมเต็มส่วนนี้ในชีวิตเลย
เหมือนขายเวลาในชีวิตแลกเงินถูกๆ ทั้งๆที่ถูกปลูกฝังมาว่าต้องสร้างผลงานดีๆ
บางคนที่ถูกสอนว่าเลือกงานที่ได้เงินเดือนสูงๆไว้ก่อนคงเหวอมากกว่าผม

4. ค่านิยมยุคใหม่มาทางคุณตัน โออิชิ หรือ Steve Jobs ที่เป็นเจ้าของ คนคิด สินค้าที่สร้างจากไอเดียตัวเอง
ไม่ใช่ Jack Welch อดีต CEO ผู้ประสบความสำเร็จกับ GE หรือ CEO บริษัทพลังงานชั้นนำของไทย
ผมว่า CEO นี่เก่งมากนะครับ แต่เหมือนความนิยมกำลังเปลี่ยนไป

สรุปสั้นๆจาก 4 ข้อคือ ถ้าทั้งเงินน้อย ลดมาตรฐานชีวิตในตัวเอง และต้องเสียเวลาทำอะไรที่ไม่ชอบ
ผมว่าผมไปฟิตเนส เรียนร้องเพลง เที่ยวไปเรื่อยๆทุกวันดีกว่าครับ
อนาคตสร้างได้ เราเป็นคนกำหนดมันขึ้นมา ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆครับ

ที่เขียนมาเยอะๆนี่ไม่ได้ตั้งใจจะหัวแข็ง หยิ่ง นะครับ
ผมแค่อยากเล่าความคิดแบบเด็กๆของผมที่ได้มาทันทีจากการดูหนังแบบไม่ได้กลั่นกรองอะไรเลย
ที่พิมพ์ยาวๆเพราะผมอยากแลกเปลี่ยนความคิดกับพี่ๆที่ทำงาน มีประสบการณ์แล้ว
หลายครั้ง ความคิดผมก็แหวกแนวมาก การได้ความเห็นกลับมาทำให้ผมเรียนรู้อะไรๆมากขึ้นเสมอครับ

ขอบคุณพี่ๆใน #1 #2 #5 #6 มากๆครับที่ช่วยแนะนำ โลกข้างนอกนั่น ผมยังไม่รู้จักเลย
29 ธ.ค. 55 / 22:55
0 0
เบอร์10 [icon smile : 92 bytes] (7098) : n/a : n/a : n/a
followup id 675237 115.67.199.62

#8# - 675245 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] #7

- 1. เห็นด้วยกับที่ว่าเลือกทางหารายได้มากขึ้นดีกว่าประหยัดค่าใช้จ่ายครับ

- 2. อันนี้อยากให้ดูข้อมูลเปรียบเทียบอีกทีครับ เอามันประเทศกับผลิตภัณท์เดิมที่บอกมานั่นแหละครับผมว่ามันไม่ใช่นะครับ

- 3. อันนี้ก็ถ้าเจ๋งจริงและถูกที่ถูกเวลามันก็มีคนเค้าพร้อมจะให้แหละครับ แต่ปัญหาของคนส่วนใหญ่ที่คิดแบบนี้คือมีแต่ตัวเองที่คิดว่าตัวเองเจ๋งแต่ตลาดเค้าไม่ได้มองอย่างนั้นด้วยอ่ะดิครับ

- 4. อันนี้ก็ยิ่งต้องขอให้ทบทวนดูประวติของคุณตันกับสตีฟเค้าอีกที ตอนนี้อาจจะดูเหมือนเค้าเจ๋งเค้าชิลแต่ตอนเริ่มต้นเค้ารากเลือดขนาดไหนต้องเสียอะไรไปบ้างเพื่อมายืนจุดนี้ มันไม่ได้เริ่มต้นดีชิลมาเลยนะครับ

ไอ้ค่านิยมอยากเป็นCEOหรือเจ้าของกิจการมันก็ไม่เคยเปลี่ยนหรือหายไปไหนหรอกครับ แต่สมัยก่อนเค้ามองสองอย่างที่ว่าเป็นเป้าหมายในการพัฒนาอาชีพเค้าไปแต่เท่าที่สังเกตุเหมือนคนยุคนี้ดันมองมันเป็นจุดเริ่มต้น?!?! มันก็คงจะลำบากหน่อยล่ะครับที่จะเดินไปสมัครเป็นCEOของบริษัทที่คิดว่าเท่ๆถ้าพ่อแม่ไม่ซื้อหุ้นเค้าไว้มากพอแล้วให้บอร์ดตั้งเราเข้าไป

ส่วนที่บอกว่าถ้าต้องทำงานที่คิดว่าต่ำๆได้เงินไม่คุ้มต้นทุนตัวเองแล้วเลือกจะไปฟิตเนสเที่ยวเล่นไปวันๆก่อนนี่ ก็ถ้าเราไม่คิดอะไรจริงๆที่ยังต้องขอเงินพ่อแม่อยู่อีกทั้งๆที่เค้าก็ส่งเราเรียนจนจบแล้ว และถ้าพ่อแม่ก็ยังรับได้ที่ต้องเลี้ยงเราต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายจะเป็นตัวเราแหละครับที่จะเสียเซลฟ์และไม่มีความสุขที่สุดและจะอายทุกครั้งที่ต้องพบปะผู้คนในสังคมเวลาเวลาเค้าถามว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่นะครับ

รอบตัวผมก็มีหลายคนที่จบปุ๊บไม่รู้จะทำอะไรพ่อแม่ก็ต้องฝากให้ทำงานเพราะหางานเองไม่มีใครรับ เข้าไปทำได้ไม่กี่เดือนก็ขอออกมาอยู่กับบ้าน ขอออกมาเรียนต่อไปเรื่อยๆโดยบอกว่าทำงานกะคนอื่นไม่ได้ ขอออกมาค้นหาตัวเอง สามสิบกว่าก็ยังเรียนมันอยู่นั่นแต่ไม่เห็นจำนวนปริญญามันจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ พ่อแม่ก็แก่ลงทุกวันรู็ตัวอีกทีก็เกษียณรายได้หด ถ้ามีกิจการของตัวเองอยู่เค้าก็คงยังไม่กล้ายกให้แล้วออกมาพักเพราะก็คงกลัวเราจะยังไม่แกร่งพอที่จะคุมบังเหียนของตระกูล ส่วนเพื่อนเราที่มันสตารท์ต่ำๆแบบที่เราไม่ชอบทำมาสิบปีเชื่อได้เลยต้องมีหลายคนที่ถึงเป้าหมายที่คุณพูดอยู่ตอนนี้หรือไกลกว่ามากแล้วเรียบร้อย

อย่าคิดเยอะครับ เก่งก็ส่วนนึงดวงก็ส่วนใหญ่ขยันก็เกือบทังหมด แต่ถ้าจะมัวเลือกคิดมากไม่ทำอะไรซักอย่าง มันก็ไม่ต่อยอดไปหาเป้าที่คุณคิดหรอกครับ

นอกจากเค้าเตรียมห้องในบริษัทที่บ้านเอาไว้แล้วก็อีกเรื่อง แต่นั่นก็จะมีปัญหาอีกแบบอยู่ดี :)
30 ธ.ค. 55 / 21:26
0 0
37235@OSK116 [icon smile : 92 bytes] (2209) : [ protect email from spamware ]
followup id 675245 115.87.210.64

#9# - 675252 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] #8 ขอบคุณสำหรับความเห็นและคำแนะนำครับ
ผมอ่านตั้งแต่ตอนที่พี่โพสแล้ว เห็นด้วยในหลายๆอย่างเหมือนกัน
ช่วงนี้ปั่นงานเยอะ ถ้าผมคิดอะไรออกเดี๋ยวจะโพสลงมานะครับ

ขอบคุณมากๆครับ :]
02 ม.ค. 56 / 07:41
0 0
เบอร์10 [icon smile : 92 bytes] (7098) : n/a : n/a : n/a
followup id 675252 115.67.135.122

#10# - 675285 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ยิ่งถามยิ่งฟังจากชีวิตพี่ๆ คุณน้าคุณอา ไปจนถึงคุณลุงคุณป้า และพวกเกษียณแล้วอย่างแก๊งคุณตาคุณยาย ชีวิตมนุษย์นี่ดราม่ายิ่งกว่าละครหลังข่าวซะอีกครับ

ชีวิตอยู่เฉยๆไม่ดีจริงด้วยครับ
คำแนะนำจากอาจารย์ไฟแนนซ์ชาวเกาหลี ที่ไปสอนในมหาลัยที่อเมริกาบอกไว้นานแล้วว่า
ชีวิตทุกช่วงอายุต้องประสบความสำเร็จ ก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ
ถ้าพลาดอยู่ช่วงนึงจะหลุดจากวงโคจรของคนอายุเท่าๆกัน คนในรุ่นเดียวกันหละ

ลูกสาวเจ้าสัวท่านนึง ตอนนี้ก็เป็น CEO กลุ่มบริษัทนึงเคยสอนผมไว้ว่า
ถ้าอยากก้าวหน้า ไม่มีทางเส้นตรงๆเหมือนคนปกติให้เดินหรอก

พี่ผมเล่าว่ามีนักการเงินคนนึงมาถามพี่ผมว่าทำยังไงถึงประสบความสำเร็จเร็วขนาดนี้
พี่ผมตอบไปว่าอย่าทำงานเป็นลูกจ้างเพื่อเอาเงินอย่างเดียว
ต้องคิดถึง ความรู้ที่ได้ คอนเนกชั่น และผลตอบแทนเสมอ ถ้าทำไปแล้วเริ่มไม่ใช่ให้เปลี่ยน
และอย่ายึดติดกับบริษัทเดียวเพราะคนตำแหน่งสูงกว่าเราไม่ตายกันง่ายๆหรอก ออกไปหาโอกาสที่อื่นบ้าง

ทำงานเพื่อคนหาตัวเอง ทำไปเรื่อยๆ ไม่ชอบก็เปลี่ยน ดีกว่าทนกับสิ่งที่ไม่ใช่
แต่ถ้าชีวิตมีภาระเยอะก็อย่าหวือหวามากนัก

รุ่นพี่ผม ลูกเจ้าของโรงแรมแถวสุขุมวิทกับที่พัทยา ตอนผมไปบ่นกับเค้าว่าท้อ เค้าบอกว่า
ไม่มีคำว่าล้มเหลว มีแต่คำว่าล้มเลิก มันเป็นเส้นคั่นที่คนอื่นก็มองเห็นว่าเราทำได้หรือทำไม่ได้

พ่อผมไม่เคยช่วยอะไรเลย ช่วงหลังที่มีปัญหาทั้งเล็กและใหญ่ผมจัดการหมด
ไม่แม้แต่จะตอบหรือแนะนำ ผมต้องถามคนอื่น คนที่ไม่รู้จัก คนที่ไม่สนิทตลอด
สุดท้ายผมพึ่งรู้ว่าชีวิตจริงคือทำงานเป็นทีม ต้องถามคนที่เก่งสุดแต่ละด้าน เอาประสบการณ์เค้ามารวมกัน
ทักษะค้นหาหาว่าใครเก่งสุด เอ่ยปากถาม ตามไปล้วงลูก ตามไปอ้อน ทักษะพวกนี่ยากมากๆ
อีกทักษะคือบริหารคนบริหารเวลา ผมเรียนอาทิตย์ละ 6 วัน ไม่มีเวลาหรอก
แต่ถ้าบริหารคนเก่งได้เยอะๆ คนพวกนี้คือเวลาของผม ผลงานที่ออกมาดีกว่าผมนั่งทำเองวันละ 48 ชม. อีกครับ

อีกคำแนะนำนึงที่ผมได้มาคืออยู่กับตัวเองเงียบๆทุกวัน ทำใจให้สงบ
คิดทบทวนที่ผ่านมา คิดเผื่อไปข้างหน้า แล้วถามใจตัวเอง ซื่อสัตย์กับตัวเอง

คุณตาคนนึงบอกว่าชีวิตมีได้หนเดียว อายุ15อยู่ที่ไหน ตอน20ทำอะไรอยู่ ช่วง25มีอะไรรึยัง
แล้ว 30 35 40 ไปเรื่อยๆเป็นยังไงบ้าง
คนเรามีอายุ 15 ครั้งเดียว มีอายุ 20 ครั้งเดียว ตอน 25 ก็มีครั้งเดียว ไม่มีทางย้อนกลับ
ทำอะไรคิดดีๆ ทำให้เต็มที่และสนุกกับมัน

อีกความเห็นนึงของคุณอาบอกว่านั่งทำงานบนโต๊ะแทบตาย นึกว่าคิดได้ดีแล้ว
แต่พอออกไปเที่ยว เจออะไรใหม่ๆ ได้คุยกับคนอื่น แล้วถึงรู้ว่าไอ้ที่คิดมาห่วยสิ้นดี
ควรหาเวลาไปเที่ยว หาโอกาสได้รู้จักคนใหม่ๆ ลองทำอะไรแปลกๆบ้าง

กลับมาที่เรื่องจากกระทู้ ผมสรุปจากหลายๆคนที่มีประสบการณ์ได้ว่า

ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่ได้ทำงานที่เราชอบ
งานที่ดีคืองานที่มีความยากและความท้าทายที่พอเหมาะ และเราได้ความรู้เติบโตขึ้น ได้คอนเนกชั่น ได้เงิน
ถ้าทำๆไปแล้วพบว่าไม่ใช่สิ่งที่ชอบหรืองานมันเปลี่ยนไปจากเดิมจนไม่ชอบแล้วให้หางานใหม่เสมอ
เป็นลูกจ้างต้องวาง positioning ตัวเองในบริษัท อย่าจับฉ่ายจนไม่มีจุดยืน วางตำแห่นงให้เราไปถึงจุดหมายที่ต้องการ
ถ้าเป็นลูกจ้างก็หัดบอกเจ้านายว่าทำอะไรได้และอยากทำอะไร บริษัทหลายที่เปิดรับสิ่งใหม่ๆแต่ถ้าเอาแต่เงียบเค้าก็ให้งานไม่ตรงใจมา
แล้วถ้าอยากทำธุรกิจตัวเองก็ให้หางานที่จะเอาความรู้และคอนเนกชั่นที่ได้จากที่ทำงานมาทำเอง
"แต่ไม่มีใครตอบได้ว่าเมื่อไหร่จะลาออกมาทำเอง ผมเองก็สงสัยว่าจุดเปลี่ยนอันนี้เกิดขึ้นได้ยังไง"
วิธีที่ดีที่สุดที่ไม่ต้องกดดันหลังเรียนจบคือทำธุรกิจให้รอดก่อนจบมหาลัย

ผมว่าช่วงเด็กๆนี่สร้างธุรกิจเองไม่กดดันที่สุดหละ แถมคนให้กำลังใจเยอะ แล้วจะได้พิสูจน์ตัวเองไปด้วยเลย :-)
05 ม.ค. 56 / 23:12
0 0
เบอร์10 [icon smile : 92 bytes] (7098) : n/a : n/a : n/a
followup id 675285 115.67.134.32

#11# - 675286 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] #8 ผมเห็นด้วยกับพี่มากๆเลยครับว่าทำอะไรได้ทำไปก่อน อย่าอยู่นิ่งๆเที่ยวไปวันๆ
ที่พี่เขียนมายาวๆผมอ่านซ้ำหลายรอบเลยครับ ขอบคุณที่แนะนำมากๆนะครับ

:]
05 ม.ค. 56 / 23:16
0 0
เบอร์10 [icon smile : 92 bytes] (7098) : n/a : n/a : n/a
followup id 675286 115.67.134.32


กระทู้นี้ต้องล็อกอินก่อนแสดงความคิดเห็นครับ

[icon login : 178 bytes]